
Shopify (SHOP) (Technology : Software Application)
• Shopify เป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานทางอินเทอร์เน็ตสำหรับการค้าปลีก มีผลิตภัณฑ์และบริการหลักประกอบด้วยระบบสร้างและจัดการร้านค้าออนไลน์, บริการชำระเงินออนไลน์ผ่าน Shopify Payments, บริการจัดส่งสินค้า, บริการการตลาดและโปรโมชั่น รวมถึงบริการสินเชื่อให้ผู้ประกอบการผ่าน Shopify Capital ลูกค้าครอบคลุมตั้งแต่ร้านค้าออนไลน์รายย่อยไปจนถึงแบรนด์ใหญ่ระดับโลก เช่น Mattel, Gymshark, Heinz, Netflix และ SKIMS
Key Takeaways

รายได้ไตรมาส 1 เติบโต 23% จากปีก่อน หรือ 29% หากปรับผลกระทบจากการขายธุรกิจโลจิสติกส์ออกไป ขณะที่กำไรขั้นต้นพุ่งสูงถึง 33%

อัตรากระแสเงินสดสุทธิเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปีก่อนที่ระดับ 12% ของรายได้ สะท้อนประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม Shopify ประสบปัญหาด้านการคาดการณ์รายได้ไตรมาส 2 ที่เติบโตชะลอลงในอัตราสองหลักต่ำ รวมถึงรายงานขาดทุนสุทธิ 273 ล้านดอลลาร์ ประเด็นเหล่านี้ได้กดดันให้ราคาหุ้นร่วงลงรุนแรง

ด้านที่ดี
• รายได้และกำไรขั้นต้นเติบโตแข็งแกร่งถึง 23% และ 33% ตามลำดับ
• กระแสเงินสดสุทธิพุ่งขึ้นเป็นสองเท่า ส่งผลให้อัตรากระแสเงินสดสุทธิต่อรายได้สูงถึง 12%
• ยอดค้าปลีกผ่านระบบและมูลค่าธุรกรรมชำระเงินเติบโตดี
• รายได้จากค่าบริการรายเดือนเพิ่มขึ้น 34% จากจำนวนลูกค้าและอัตราค่าบริการที่ปรับสูงขึ้น

ด้านที่ไม่ดี
• การคาดการณ์รายได้ไตรมาส 2 เติบโตในอัตราสองหลักต่ำเมื่อเทียบรายปี ถือเป็น Weak Guidance เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
• Shopify รายงานขาดทุนสุทธิ 273 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 ถือเป็น Surprise Loss แม้รายได้จะสูงกว่าคาด
• อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะลดลง 50 bps สะท้อนผลกระทบจากการขายธุรกิจโลจิสติกส์ในปีก่อน

Outlook ของบริษัท
• รายได้ไตรมาส 2 คาดเติบโตในอัตราสองหลักสูง แต่ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อน
• อัตรากำไรขั้นต้นคาดลดลง 50 bps จากไตรมาส 1
• ค่าใช้จ่ายดำเนินงานคาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในอัตราหลักเดียว
• อัตรากระแสเงินสดสุทธิต่อรายได้คาดอยู่ในระดับใกล้เคียงไตรมาสแรก

สรุป
• Shopify มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1 โดยรายได้และกำไรเติบโตกว่า 20 – 30% พร้อมกระแสเงินสดสุทธิที่พุ่งสูงขึ้นเกือบเท่าตัว อย่างไรก็ดี การคาดการณ์รายได้ชะลอตัวในไตรมาส 2 ประกอบกับการขาดทุนสุทธิที่ไม่คาดคิด และผลกระทบจากการขายธุรกิจโลจิสติกส์ได้กลายเป็นจุดอ่