MAGURO น่าลงทุนป่าวน้า (แก้ไข)
ยอมรับเลยว่าผมก็เพิ่งรู้จัก #MAGURO, #HITORI และ #SSAMTHING เมื่อไม่นานมานี้
แล้วก็ได้ไปลองมา 2 ครั้งแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าคุณภาพวัตถุุดิบเค้าดีจริงๆนะ
ทีมบริหารก็อายุไม่มากยังรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันได้
ไปคุยกับเพื่อน มันก็รู้จักกัน และบอกว่าชอบมาก อืมม… แต่พอมาเป็นการลงทุนในหุ้นมันมีมิติอื่นๆ อย่างราคาหุ้นที่จะมองแค่ร้านดีอาหารดีไม่ได้ไง ตลาดมันเดือดเอาเรื่องเลยนะร้านอาหารญี่ปุ่นเนี่ย 🔥
มาลอง Valuation เล่นๆลวกๆกันดูว่าพอน่าลงลึกไหมนะครับ
ภาพตัวเลขคร่าวๆอุตสาหกรรมร้านอาหารตลาดหุ้นไทย
PE ร้านอาหารอยู่ราวๆ 15-30 เท่า
PBV ร้านอาหารอยู่ราวๆ 2-5 เท่า
ROE ร้านอาหารอยู่ราวๆอยู่ราวๆ 12%-20%
MAGURO เข้ามาที่ราคา Market Cap. 2000 ลบ.(ตีกลมๆ) ปัจจุบันรวมทุกแบรนด์มี 27 สาขา และใน pipeline ปีนี้อีกร่วม 10 สาขา+- จบปีน่าจะมี 35 สาขาได้
IPO 34 ล้านหุ้น บริษัทได้เงินทุนราวๆ 540 ลบ+-
- PE ราวๆ 28 เท่า — ก็ถือว่า Premium ใช้ได้นะ แต่ก็เติบโตอะจะเป็นไรไป
- PBV หลัง IPO จะอยู่ประมาณ 3.26 เท่า คืนกองทุน 200 ลบ. เงินเข้าบริษัท 340 ลบ.
— ถ้าไปดูร้านอาหารที่อยู่ในตลาดไทยที่เคย Hypeๆ ในอดีต ก็อยู่ประมาณนี้ หรือสูงกว่านี้ด้วยซ้ำ (ตลาดก็มีส่วนช่วยเรื่องValuationตรงนี้พอสมควร) —
ถ้าดูคร่าวๆก็ไม่ได้ถูกไม่ได้แพง หรือไม่รู้ว่าถูกหรือแพงด้วยซ้ำ มันได้อารมณ์ประมาณนั้นนะครับ ไม่ได้รู้สึก ว๊าว!!ฉันได้ของดีราคาถูกก
พูดถึงว่าจะเปิด 35 สาขา เป็นไปได้สบายๆนะ เพราะเงินพร้อม + ตัวบริษัทก็ทำกระแสเงินสดได้ดีอยู่แล้ว เปิดเพิ่ม 11 สาขา ใช้เงินราวๆ 250 ลบ. ไม่มีปัญหา
กำไรคาดหวังในปี 2567 คือ 80-100 ลบ.
สิ้นปี 2566 #MAGURO มี 25 สาขา ทำกำไรได้ทั้งหมด 72 ลบ. คิดง่ายๆลวกมากๆ กำไร 2.88 ลบ.ต่อสาขา ถ้าปีนี้ เปิด 35 สาขา ก็ 35*2.88 = กำไร 100 ลบ. (จริงๆคิดแบบนี้ก็ bullshit ไปหน่อยนะครับ เพราะอาจจะมีสาขาที่เปิดปลายปีหรือเปิดไม่พร้อมกันระหว่างปีมันทำให้รายได้กำไรมันสวิงแน่นอน แต่จุดประสงค์คืออยากให้เห็นภาพว่า ถ้าทำกำไรได้ 100 ลบ.ในปีนี้ ภาพ Valuation น่าจะประมาณไหน ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด) จัดไป..เอาขอบบนไปเลยกำไร 100+ หรือ YOY% = 39%
หรืออีกภาพ
ลองมาคำนวนแบบเชื่อผู้บริหารไปเลยว่ารายได้โต 30% — ในปี 2567 รายได้จะเป็น 1300 ลบ. กำไร 100 ลบ. NPM 7.7% (ถ้า Squeeze ดีดีก็พอเป็นไปได้ หรือ อาจจะดีกว่า)
—————————————————————
Please NOTE: Net Profit Margin 4ปีย้อนหลัง ตัดรายได้อื่นออก –
2563 NPM 4.8%
2564 NPM 1.8%
2565 NPM 4.6%
2566 NPM 6.7%
เป็นไปได้ไหมว่าเติบโตขึ้นมาจากฐานต่ำ ช่วง COVID มาอยู่ที่ 6.7%
แล้วเค้าจะ Improve margin ไปได้สุดทางที่ตรงไหน แต่หวังว่าจะไม่ใช่ 6.7% คือดีมากแล้วนะ 😎
—————————————————————
เอาเป็นว่า สมมุติว่าเราไปขุดคุ้ยมาแล้ว และพอมั่นใจว่ากำไรน่าจะทำได้ 100 ลบ. ในปีนี้
— กำไร 100 ลบ. —
FWPE = 20 เท่า, Implied yield รวมปันผลก็ 7%
FWPBV = 2.3 เท่า
หรือ
จะมองว่าวันนี้ Mkt.Cap อยู่ที่ 2000 ลบ. มอง PEไม่ด๊ายยยย บริษัทยังต้องเติบโตอีกมากก Mkt.Cap 2000 มันเล็กเกินไป ธุรกิจนี้มันไปได้ถึง 5,000-10,000 ลบ.นู้น อันนี้ก็สุดแท้แต่นะครับ (ช่วงที่ ZEN/M/SNP/AU/MUD ดีๆก็เอาเรื่องอยู่นะครับ)
เท่านี้ถูกพอยังหรือยังแพงอยู่อีก??
ทีนี้ถ้าลองมามองมุมที่เป็น Total Shareholder Return บ้างหละ ภาษาบ้านๆคือเราลงทุนไปจะคุ้มค่าไหมกับเงินลงทุนวันนี้ (ผลตอบแทนที่คาดหวังคือเท่าไหร่กับธุรกิจแบบนี้?) ก็ลองคิดดูเอานะครับว่าบริษัททำ ROE ได้ 12% จากฐานทุนใหม่ และในอุตสาหกรรมอาหารช่วงกำลังบูมๆ มันสามารถไต่ ROE ได้ระดับ 15-20% เลยทีเดียว ด้วยความที่สาขายังกระจายไม่เยอะยังมีพื้นที่ให้เค้าเจาะไปได้อีกมากโดยที่ช่วงแรกของการเปิดในพื้นที่ใหม่ๆคาดว่าจะทำให้ยอดขายมาดีกว่าปกติก็เป็นแรงส่งการเติบโตในช่วงม้าตีนต้น
ผลตอบแทนคาดหวังได้ระดับ 10-13% ก็ไม่เลวนะ (incase ว่าเป็นไปในแนวทางที่ดีนะ)
โมเดลขยายสาขาสร้าง EOS+Network effect บลาๆๆ.. (อาจารย์ผมจะบอกว่าตำรา555+)
นโยบายจ่ายปันผลที่ 40% ถ้าตีเป็น Yileds% ก็ประมาณ 2% จากราคา IPO และหากเติบโต ปันผลก็ไต่ไปถึง4-5%เลย (กรณีไม่มีปันผลพิเศษ แต่คิดว่าบริษัทไม่น่าปันมากกว่านี้ เงินยังต้องใช้ขยายสาขาอีกมาก)
— แน่นอนว่าปันผลไม่ดึงดูดใจตามสไตล์หุ้นgrowth แต่ถ้ากำไรมาแน่ใน 2-3 ปี Capgain ยังไงก็มา —
แล้วอะไรจะทำให้มันไม่เป็นไปตามคาดบ้างหล่ะ?? อันนี้เป็นโจทย์ที่ต้องหาคำตอบ
แต่ความเสี่ยงสำหรับเงินลงทุนเรา ไม่ใช่Business Risks คือถ้ากำไรไม่ได้เป็นไปตามที่คิดหล่ะ? เช่น กำไรปีนี้ออกมาใกล้เคียงเท่าปีที่ผ่านมา หรือ แย่กว่าปีที่ผ่านมาหล่ะ Capgain ก็เป็นแค่ภาพลวงตาได้เลยนะ เราสั่งใครไม่ได้ + สั่งPEให้เป็นเท่านั้นเท่านี้ไม่ได้ + สั่งเศรษฐกิจให้คนออกมากินร้าน maguro ไม่ได้ + สั่งบริษัทลด SG&A แอบค่าเสื่อมไปให้หมดไม่ได้.. เราก็ต้องยอมรับความโลภของเราเอง (นั้นทำไม MOS ที่มีวินัยมันถึงสำคัญมาก)
เพราะฉะนั้น หากเรา conservativeมาก ชอบแบบชัวๆไม่หวัง Capgain เกินไป ได้ Yields 2% + ราคาหุ้นไม่แน่นอน เอาเงินลงทุนไปลงกองทุนหรือหุ้นกู้เกรดดีดี ดีกว่าไหมน้า??
แต่บางครั้งความ Conservative มากไปหรือกลัวความเสี่ยงเกิน ก็พลาดโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีดีได้เช่นกัน 🥲
สรุปคือ..
ถ้าเชื่อ…แล้วหาข้อมูลมาดีแล้วว่าปีนี้กำไรไป 100 ลบ++ แน่ๆ ทำไมต้องไม่ลุยอ่ะ??
ด้านบนนี้มันเป็นแค่ตัวเลขที่เราหาได้จากแค่ตัวหนังสือ Filing ให้เราจินตนาการตามเท่านั้นนะครับ ในกรณีแบบนี้ถ้าหุ้นถูกชัดเจนก็พอลงทุนได้ แต่ถ้าหุ้นที่ราคากลางๆและก้ำกึ่งค่อนไปทางแพง มันจำเป็นต้องเข้าใจคุณภาพธุรกิจกับทีมบริหารมากๆๆๆ
**ถ้าจะลงน้ำหนักกับการลงทุนครั้งนี้ก็ต้องเข้าใจเนื้อหาธุรกิจ เข้าใจ insight จริงๆ ไม่มีทางลัดครับ
ปล.
“จงมองโลกด้วยสายตา Risk Adjusted Return เสมอๆ” เป็นอะไรที่ผมตระหนักมันอยู่ตลอดๆโดยเฉพาะในการลงทุน
ลงทุนโดยการมองที่ความพร้อมตัวเองเป็นหลัก อาชีพ การงาน กระแสเงินสดส่วนตัว
ผมสังเกตว่าคนที่มีพอรท์ในแต่ละระดับ 0-100 ลบ. 100-1000 ลบ. และ 1000-10000 ลบ. มองธุรกิจสั้น-ยาว ไม่เหมือนกัน เพราะมันเริ่มเกี่ยวข้องกับการวาง Position ที่มีนัยยะที่ต่างกัน ผลตอบแทนคาดหวังและความเสี่ยงที่รับได้ก็ย่อมต่างกันครับ
**PE และ Discount rate เปลี่ยนแปลงได้ตลอด ตามคุณภาพของธุรกิจ เพราะงั้นผมไม่ค่อยสนใจ Industry มากเท่าไหร่ แค่ดูเป็นกรอบคร่าวๆมากกว่า
**สุดท้ายการที่ไปควานหาข้อมูลมากมาย ก็เพื่อที่จะทำให้เรามั่นใจในตัวเลขที่เรา Valuation อย่างสมเหตุสมผลเท่านั้นเอง
หากข้อมูลผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ
หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยกับเพื่อนๆนักลงทุนนะครับ ❤️