หุ้นไทยร่วงต่ำสุดในรอบ 4 ปี จะกลายเป็นทศวรรษที่สาบสูญ หรือ “โอกาสลงทุน” ที่ดีที่สุด? (กวี ชูกิจเกษม)
สรุปโดยเพจ #นิยมลงทุน
🙏 ทักทายแขกรับเชิญและยังศรัทธาหุ้นไทยอยู่ไหม และประสบการณ์กับหุ้นไทย
- อยู่ในตลาดตั้งแต่ยุคต้มยำกุ้ง เข้ามาวันแรกก็สูญเสียศรัทธาในตลาดหุ้น เหมือนกับที่คนเป็นกันในวันนี้ ตอนนั้นดูหนักกว่าในตอนนี้ด้วยซ้ำ
- ตอนดัชนี 1800 ไป 200 หลายบริษัทล้มละลาย
- ตอนเช้าตลาดใหม่ๆ เงินหายไป 70% ทำงานมา 3 ปี ในอุตสาหกรรมพลังงาน ไปเรียนไฟแนนซ์ ทั้งๆที่บริษัทปิดไปเรื่อยๆ ใครชวนลงทุนก็เชื่อ
- เอาเงินที่ได้จากโบนัส มาลงทุนด้วย สุดท้ายก็ไม่เหลืออะไรเลย
- ใช้เวลา 2 ปี ทำงานไปเรื่อยๆ ในวงการการเงิน ไม่ตกงานก็ดีแล้ว
- การเรียกศรัทธาใช้เวลานาน กลับมาดีช่วงปี 2000
- ถ้าการลงทุนเป็นเจ้าของกิจการ ก็จะเชื่อมากขึ้น
- เราลงทุนแล้วคิดว่าเป็นเจ้าของ ตราบใดที่กิจการยังดำเนินปกติ ก็ไม่ได้สนใจ
- เคยใช้ราคานำ แล้วล้มเหลว
- ถ้าธุรกิจดี มีการจ่ายปันผลเรื่อยๆ ก็ถือเป็นการลงทุนที่ยั่งยืน
- แม้ในประเทศที่มีปัญหา ก็ยังมีบริษัทดีๆที่โตได้อยู่ ถ้าคิดแบบนั้นศรัทธาจะไม่ยึดติดกับตลาดหุ้น เศรษฐกิจ ความผิดพลาด มากจนเกินไป เราจะอยู่กับบริษัทที่มีอนาคต ถ้าหุ้นลงมาก็ถือเป็นโอกาสดี มีโอกาสซื้อเพิ่ม
- ผ่านวิกฤตตลาดมาหลายรอบ ตลาดหุ้นไม่ไปไหน แต่ก็ได้ปันผลทุกปี
- สิ่งที่เราซื้อทุกวันนี้ ราคาก็ลดลง และไม่มีเงินปันผลให้คุณ แต่ถ้าซื้อหุ้น แม้มูลค่าลดลงก็ไม่ต้องกลัว
🇹🇭 การลงทุนหุ้นไทยก็เหมือนการซื้อสินค้าและทำไมไทยถึงยังน่าลงทุนธุรกิจ
- ในตลาดมีบริษัท 600-700 บริษัท ต้องมีซัก 10-20 บริษัท ที่ยั่งยืนได้
- เศรษฐกิจไทยมีข้อจำกัด แต่อย่าสูญเสียศรัทธา
- Aging Society เป็นเรื่องที่ไม่สามารถแก้ได้ แต่รัฐบาลสามารถแก้เรื่องอื่นได้
- ถ้าการใช้ชีวิตปกติยังยาก คนก็จะไม่คิดเรื่องมีลูก
- ประเทศไทยต้องหาสเน่ห์ของตัวเอง
- ทุกอย่างต้องใช้เวลา
- ไทยอยู่รอดปลอดภัยจนถึงทุกวันนี้ เพราะภูมิศาสตร์ที่ดีมาก
- เราอยู่ตรงกลางระหว่างคน 4 พันล้าน กว่าครึ่งโลก ยังไงก็หนีไทยไม่พ้น สร้างในประเทศไทย จะออกทะเลได้ทั้งซ้ายและขวา
- ไทยไม่มีแร่ธาตุที่หายาก แต่รอบเรามีแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งแต่ละประเทศมีไม่เหมือนกัน มาประกอบเป็นแบตเตอรี่
- ประวัติศาสตร์บอกว่าเราเป็นศูนย์กลางระหว่างซ้ายและขวา ในสงครามญี่ปุ่นสร้างทางรถไฟที่กาญจนบุรีเพื่อบุกไปทางตะวันตก เนื่องจากสะดวกกว่าการอ้อมไปทางสิงคโปร์ ถ้านั่งเรือจากแอฟริกามา ก็จะเจอไทยได้ทันทีเช่นกัน
- EV มาลงทุนที่ไทย เนื่องจากเป็นศูนย์กลางที่แร่จะวิ่งเข้ามา และสามารถส่งออกได้ทุกทางเช่นกัน
- Data Center จะมาลงทุนที่ไทย เนื่องจากเรามีพลังงานไฟฟ้าจนล้น
- ช่วงนึง ไทยเปิดประมูลโรงไฟฟ้าให้เจ้านึง จนตอนนี้ใหญ่คับประเทศ
- ไทยมีพลังงานสะอาดเยอะ เป็นแหล่งพลังงานสำรอง ไว้ใช้เมื่อไฟตก ไฟดับ สำหรับ Data Center ได้
- เวียดนามจะมีการเข้าไปลงทุนในโซนที่ไฟฟ้านิ่ง แต่ไม่ได้นิ่งทั้งประเทศ
- ประเทศไทย เด็กที่เรียนดีที่สุด จะเรียนสายการแพทย์ เป็นอันดับ 3 ของโลก เรื่องศัลยกรรม เป็นรองแค่ อเมริกาและเกาหลี สามารถทำได้ตั้งแต่หัวยันเท้า
- คนอเมริกา เด็กที่เรียนที่สุดจะเรียนกฏหมาย แต่ในไทยเอาคนเรียนกฏหมายไปเล่นการเมือง
- ในอีก 10 ปี อาจคาดหวังให้ตลาดหุ้นไป 2000 พอลุ้นได้ แต่ถ้า 3000-4000 น่าจะยากมาก
📉🇹🇭 ไทยจะอยู่ในทศวรรษที่สาบสูญไหม
- เราอาจเจอทศวรรษที่สาบสูญ เนื่องจาก เราเจอทั้ง Aging Society และภาวะหนี้ภาคครัวเรือน ต้องหวังเติบโตตามสภาพเศรษฐกิจโลก โตด้วยตัวเองลำบาก
- เราเลือกลงทุนได้ในบางอุตสาหกรรม
- เราหวังได้ว่า ถ้าลงไปต่ำกว่า 1000 จุด จะสามารถกลับมาได้ที่ 1500-1700 จุด เนื่องจากตลาดมีระดับที่เหมาะสม
- อย่าคาดหวังการบริโภคในประเทศ คิดว่าดัชนีที่เหมาะสมอยู่ที่ 1200-1600
- ควรมองหาประเทศที่มีการเติบโตที่ดีกว่า เพื่อการลงทุน
- อาเจนติน่าขาดดุลงบประมาณ ทำให้ต้องใช้เงินจากการกู้ โดยถ้ากู้ IMF คือการกู้ที่สุดท้ายแล้ว มีการแก้ปัญหาโดยการบังคับให้ธนาคารกลางพิมพ์เงินเพื่อไปจ่ายหนี้ จึงเกิดเงินเฟ้อ ซึ่งผู้นำคนใหม่กำลังพยายามแก้ปัญหา
- ประชานิยมกับประชาธิปไตยไม่เหมือนกัน โดยประชาธิปไตย เน้นการแข่งขันอย่างเสรี แต่ประชานิยมคือ การที่เห็นเอกชนทำอะไรดี ยึดมาแล้วทำเอง เพื่อแจกจ่ายเงินแลกความนิยม
- ประชานิยม ข้อเสียคือ จ่ายไปแล้ว ดึงคืนลำบาก
- การกู้เงินของรัฐควรกู้ในประเทศ กระแสเงินสดในประเทศยังดีอยู่
- หากกู้หนี้จากต่างประเทศแล้วมีปัญหา เจ้าหนี้จะเข้ามาจัดการทันที ไม่เหมือนการกู้ในประเทศ ที่ยังพอพูดคุยกันได้
- ธปท. ค่อนข้างอิสระ มีเงินสำรองระหว่างประเทศสูงมาก แต่อย่าให้รัฐบาลมาก้าวก่าย
- เงินจะไม่มีค่า ถ้าขาดความเชื่อมั่น แบบประเทศ เอกวาดอร์ อาร์เจนติน่า
- มีการแบ่งพอร์ทเป็นไทย 50% และลงทุนในต่างประเทศอีก 50%
🕵️♂️ หุ้นไทยหมดอนาคตหรือไม่ และไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันภาคธุรกิจหลายๆ ด้านแล้วจริงหรือ ?
- ตั้งแต่ปี 2000 ที่ตลาดหุ้นขึ้นมาได้ จากการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
- ตอนต้มยำกุ้ง แม้เงินบาทจะอ่อน แต่ก็ทำให้การส่งออกดี จนกลายเป็น 80% ของ GDP
- ฝั่งยุโรปปัจจุบันมีปัญหา จนต้องลดดอกเบี้ย
- จีนยังไม่ฟื้นเต็มที่ อเมริกาเติบโตเล็กน้อย
- โจทย์ของรัฐบาลคือ อีก 20 ปีข้างหน้า ไทยจะพึ่งพาตัวเองได้อย่างไร เหมือนที่ซาอุพึ่งพาตัวเองได้ในวันนี้
- เราต้องเปิดให้ชาวต่างชาติเข้ามาถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับเราบ้าง
- ชลประทานบ้านเราต้องพัฒนา ไม่ใช่รอให้แล้งหรือน้ำท่วม แล้วเอาเงินไปช่วย
- การศึกษา ชลประทาน เทคโนโลยี โลจิสติก คือฐานที่เราต้องพัฒนา เพื่ออนาคตที่ดีในอีก 20 ปีข้างหน้า
- ถ้าเราเข้า BRICS จะได้ประโยชน์ เนื่องจากแร่หายากอยู่ในประเทศเหล่านี้ เราอยู่ตรงกลาง ถ้าย้ายฐานการผลิตมาจะสูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันจีนเริ่มมองหาที่เปิดโรงงานใหม่ๆ เหมือนตอนที่ญี่ปุ่นหาฐานการผลิต ซึ่งเราจะมีโอกาสอีกรอบ
- อาร์เจนติน่าเคยไล่ทุนต่างประเทศออกแล้วยึดมาเป็นของตัวเอง ส่วนมาเลย์เซียเคยสกัดทุนออกจากต่างประเทศตอนต้มยำกุ้ง ทำให้ต่างชาติไม่กล้าเข้ามาลงทุน
- ประเทศไทยเป็นมิตรต่อนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากแม้ตอนติดหนี้ IMF ยังประกาศว่าจะคืนหนี้จนครบและทำได้
- เชื่อว่า ตลาดหุ้นบ้านเรา EPS ของตลาดจะอยู่ที่ราว 100 บาท ถ้าตลาดอยู่ที่ 1200 ถือว่าถูก ช่วง 1400 ถือว่าสมเหตุสมผล
- ไม่มีใครรู้ว่าหุ้นจะลงไปถึงไหนแต่ถ้าคิดว่าถูกแล้วก็สามารถซื้อได้
- ถ้าตอบในฐานะนักวิเคราะห์ ตลาดควรจะ bottom ได้แล้ว
💵 พี่กวีกลัวดอกเบี้ยหรือเปล่า
- ดอกเบี้ยไม่น่ากลัว การเมืองน่ากลัวกว่า
- ดอกเบี้ยไทยต่ำมาก ลงได้ไม่เยอะแล้ว
- เงินในตลาดเงินอเมริกาเยอะมาก ถ้าดอกเบี้ยลง ต้องเอาเงินออกมาหาโอกาสเพิ่ม
- ในไทยมีหุ้น Defensive ที่มี yield เยอะ เหมาะสำหรับการลงทุน
- วันนี้หุ้น Tech เท่านั้นที่ขึ้น หุ้นที่เป็น Defensive ลง ซึ่งบ้านเราก็เหมือนกัน
- มองว่า NVIDIA ขึ้นมาเยอะในอเมริกา เหมือนตอน DELTA ขึ้นเยอะในตลาดไทย
- ถ้ามองในมุมมองนักลงทุนคือ ราคานี้เหมาะสม ซื้อแล้วได้เงินปันผลเพิ่มได้เรื่อยๆ ถ้าราคายิ่งลงก็ยิ่งดีใจ
- ความเสี่ยงที่มากที่สุดในตลาดหุ้นอเมริกาคือ ความเสี่ยงที่ไม่รู้จะซื้อหุ้นอะไร พูดโดย Warren Buffet
🚀 การลงทุนในหุ้นไทยยังเป็นโอกาสที่ดีไหม และการใช้จ่าย
- โอกาสยังมีอีกมาก แต่ต้องหาความรู้
- ต้องยอมอดทนและสูญเสียอะไรบางอย่างในช่วงแรก
- ถ้าเชื่อว่ามีชีวิตใช้ซะ มีเงินก็ใช้ไป โอกาสมีอิสรภาพทางการเงินก็น้อย
- ถ้าเริ่มด้วยการเป็นหนี้ ไม่ยอมอดทนบ้าง แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปสะสมสินทรัพย์
- อาจต้องคิดถึงความคุ้มค่าของการใช้เงินมากขึ้น
- อาจเข้าศูนย์อาหารแทนร้านอาหาร เพื่อที่จะได้มีเงินเก็บมากขึ้นเพื่อนำไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ
- อิสรภาพทางการเงิน เริ่มจากประหยัด ไม่จำเป็นต้องลงทุน อาจจะฝากเงินแล้วมีอิสรภาพทางการเงินได้
- ไม่มีความรู้ ไปลงทุนที่ไหนก็แพ้
- การทำเหมือนเดิม ผลลัพท์ก็จะออกมาเหมือนเดิม การทำสิ่งใหม่ เพื่อให้ได้ผลลัพท์ใหม่ๆ