KLINIQ

#KLINIQ

#ไตรมาส_4_2566

มีเหตุการณ์กราดยิงที่สยามพารากอน จึงทำให้รายได้ในไตรมาส 4/2566 นั้นน้อยกว่าปกติ โดยสังเกตได้จาก SSSG ในไตรมาส 4/2566 นั้นอยู่ที่ระดับ +6.90% YoY น้อยกว่าไตรมาส 1/2566 ที่ 9.30% และ ไตรมาส 2/2566 ที่ 9.40%

ซึ่งแม้ว่าในไตรมาส 4/2566 กำไรจะทำ All Time High ที่ระดับ 77.955 ล้านบาท รายได้ที่ต่ำกว่าปกติ จึงทำให้ GPM% นั้นน้อยกว่าปกติ เพราะ ต้นทุนค่าเช่าเท่าเดิม, มี Bonus พิเศษ เลยมี SG&A ที่สูงกว่าปกติ และ มี Tax Rate ที่ต่ำกว่าปกติ จึงทำให้อัตราส่วนทางการเงินเพี้ยนไปทั้งหมด

#ไตรมาส_1_2567

รายได้ก็ดันดีกว่าปกติอีก จากการที่คนจะไปทำหน้าในไตรมาส 4/2566 นั้นเลื่อนไปทำหน้ากันในไตรมาส 1/2567 จึงทำให้ในไตรมาส 1/2567 มี SSSG +16.20% YoY ซึ่งหากเทียบกับไตรมาส 1/2566 ที่ระดับ 9.30% และ ไตรมาส 2/2566 ที่ระดับ 9.40% ดังนั้น SSSG ที่ระดับ 16.20% ในไตรมาส 1/2566 จึงสูงผิดปกติ

ถึงแม้ว่า GPM% นั้นดีกว่าปกติ จากการที่ได้รับอานิสงค์จากรายได้ที่มากกว่าปกติ ที่มา Blend ในส่วนของต้นทุน Fixed Cost แต่ก็มีต้นทุนในการเปิดสาขาใหม่ 10 สาขา มาฉุดลง ไปอีก ดังนั้น %GPM ในไตรมาส 1/2567 ก็ยังคงดูไม่ได้อีก เพราะ มีทั้งเหตุการณ์ที่ดีกว่าปกติ และ แย่กว่าปกติ ในไตรมาสเดียวกัน

แล้วจากการที่รายได้ในไตรมาส 1/2567 นั้นดีกว่าปกติ จึงไปกดให้ SG&A to Sales ที่ทำ All Time Low ที่ระดับ 37.36% ทั้งๆที่มีการเปิดสาขาถึง 10 สาขา ซึ่งก็ไม่น่าจะเป็นไปได้อีก เพราะ เปิดสาขา 10 สาขา ต้นทุนมาก่อนรายได้ แต่ SG&A ไปทำจุดต่ำสุดใหม่ ดังนั้นต้องเข้าใจก่อนว่า ไตรมาส 1/2567 นั้น SG&A นั้นดีกว่าปกติ

#ไตรมาส_2_2567

#รายได้ 701.606 ล้านบาท +30.01% YoY และ +1.99% QoQ

#กำไรขั้นต้น 354.412 ล้านบาท คิดเป็น อัตราการทำกำไรขั้นต้น 50.51% improve จาก Q1/2567 ที่ 50.38% เล็กน้อย ดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 1/2567 ซึ่งจริงๆก็ยังไปในทิศทางที่ควรจะเป็นเพราะรายได้เติบโต ต้นทุนมันก็ควรจะเติบโตช้ากว่า

#ค่าใช้จ่ายในการขาย 26.78% หากเทียบก็ยังคงอยู่ในทิศทางขาลดลงเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องจากระดับ 28% ในปี 2565

#ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 79.538 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2567 คิดเป็น 11.34% ซึ่งก็อยู่ในกรอบของการค่อยๆลดลงเรื่อยๆ

#กำไรสุทธิ 74.116 ล้านบาท คิดเป็น #อัตราการทำกำไรสุทธิที่ 10.56%

หากไปดูในการ #Break_Down_by_Business_Unit

#THE_KLINIQUE หากไปดูรายได้ย้อนหลัง จะเห็นได้ว่าค่อยๆ เติบโตจากระดับ 436 ในไตรมาส 1/2566 แล้วค่อยๆไต่ระดับขึ้นไปที่ 450 ล้านในไตรมาส 4/2566 ซึ่งรายได้ในไตรมาส 4/2566 เป็น High Season แต่ได้รับผลจากการกราดยิงที่สยามพารากอน ยังมีรายได้ที่ระดับ 450 ล้านบาท แปลว่าจริงๆแล้ว ไตรมาส 4/2566 รายได้ต้องมากกว่านี้

ในไตรมาส 1/2567 ที่เป็น Low Season รายได้ที่ระดับ 482 ล้านบาท เป็นการเพิ่มขึ้นถึง 7% QoQ จากไตรมาส 4/2566 ซึ่งเป็น High Season .. การเพิ่มแบบนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้อยู่แล้วหากเทียบว่าไตรมาส 4/2566 นั้นเป็น High Season แต่ไตรมาส 1/2567 ที่เป็น Low Season รายได้จะมากกว่าระดับ 7% ได้อย่างไร ?? .. ดังนั้นก็น่าจะพออนุมานได้ว่ารายได้ในไตรมาส 1/2567 ที่โดดขึ้นมาเยอะๆนั้นก็มาจากแบรนด์ THE KLINIQUE และ ฐานสูงกว่าปกติ และ THE KLINIQUE มี Contribution กว่า 70% ของบริษัท ดังนั้นจึงเป็นตัว drive SSSG จากระดับ 9.30-9.40% ในฐานปี 2566 เป็น 16.20% ในไตรมาส 1/2567 ดังนั้นไตรมาส 1/2567 จึงเป็นฐานที่ดีกว่าปกติ

ส่วน Business Unit อื่นๆ ก็ยังคงเติบโตแบบ Smoothly QoQ

หากไม่มีอะไรผิดพลาด หรือ อะไรประหลาดๆอีก ทั้งจากการกราดยิง ในไตรมาส 4/2566, การเปิด 10 สาขา ในไตรมาส 1/2567 และ ไตรมาส 2/2567 ที่อาจจะดู Drop QoQ จากฐานที่สูง และ เป็น Low Season ก็ควรจะเห็นอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่น่าจะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ และ สาขาที่เปิด 10 สาขาในไตรมาส 1/2567 น่าจะกลับมาสู่จุดคุ้มทุน (ปกติใช้เวลา 6 เดือน) และ การกลับเข้าสู่ High Season ในครึ่งปีหลัง ก็น่าจะทำให้ %GPM improve ได้

จ.บ. 🌈

ใส่ความเห็น

ออกแบบเว็บแบบนี้ด้วย WordPress.com
เริ่มต้น