สรุป Lead Indicator คืออะไร และ มีประโยชน์อย่างไร
Lead indicator คือ ตัวแปรใดๆ ที่บ่งชี้ถึงอนาคตของรายได้ของหุ้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปที่รายได้เป็นหลัก เพราะรายได้เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของธุรกิจ หากธุรกิจมีรายได้เติบโต ก็มีโอกาสที่ธุรกิจจะเติบโตอย่างยั่งยืน
ประโยชน์ของ Lead indicator
- ช่วยทำนายอนาคตของหุ้น: นักลงทุนสามารถใช้ Lead indicator ประเมินได้ว่าหุ้นตัวไหนมีโอกาสเติบโตในอนาคต
- ประเมินงบการเงินล่วงหน้า: สามารถใช้ Lead indicator ประมาณการงบการเงินของบริษัทได้ในระยะสั้นและระยะยาว
- หาส่วนต่างของผลกำไร: นักลงทุนที่ใช้ Lead indicator จะได้เปรียบในตลาดหุ้น เพราะสามารถคาดการณ์การเติบโตของหุ้นได้ก่อนที่งบการเงินจะออกมา
ตัวอย่าง Lead indicator ในธุรกิจต่างๆ
- AOT: จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย
- กลุ่มท่องเที่ยว: จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย (แต่ความสัมพันธ์จะไม่ใกล้ชิดเท่ากับ AOT)
- BAFS: ปริมาณเที่ยวบินที่เดินทางเข้าออกประเทศไทย
- กลุ่มโรงแรม: RevPar (รายได้เฉลี่ยต่อห้อง)
- ทีวีดิจิตอล: ตัวเลขเรตติ้ง, ค่าโฆษณาเฉลี่ยต่อนาที
- ธุรกิจอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, GDP
- ธนาคาร: GDP, NIM (Net Interest Margin)
- รับเหมาก่อสร้าง, อสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย: Backlog
- อสังหาริมทรัพย์ให้เช่า: อัตราการเช่า
- **ร้านค้าปลีก:**ยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sales Growth), อัตราการเปิดสาขาใหม่
- ทางด่วน: จำนวนรถที่ใช้ทางด่วน
- ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน: ราคาน้ำมัน
- ธุรกิจอาหาร (ไก่ หมู ปู กุ้ง): ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก
- ธุรกิจปุ๋ย: ปริมาณน้ำในเขื่อน
- เครื่องปรับอากาศ: อุณหภูมิ
ข้อควรระวัง
- Lead indicator บางตัวอาจไม่ได้มีความสัมพันธ์กับรายได้ของธุรกิจเสมอไป ดังนั้นควรตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่าง Lead indicator กับรายได้ย้อนหลัง โดยใช้เครื่องมืออย่าง Excel หรือ Google Sheets เพื่อหาค่าสัมประสิทธิ์ความสัมพันธ์
- แม้ว่า Lead indicator จะมีความสัมพันธ์กับรายได้ในอดีต แต่อนาคตของธุรกิจก็ยังคงมีความไม่แน่นอน