KCG

-ข้อมูลจากIR+บวค+งานCV Pi ค่อนข้างตรงกัน

-Q2/67 topline+~10% , sg&a to saleเท่าๆQ1/67 ,GPMน่าจะโอเคเพราะต้นทุนQ2ยังไม่ขึ้น

-ย้ายคลังมีcostเพิ่มขึ้นไม่เยอะ มีหนักๆค่าแอร์ที่ต้องปรับลงวันละ5องศา จนได้ติดลบ อย่างมากเดือนละ8แสน

-ในQ2/67 มียกเลิกคลังสินค้าไปบางส่วน ส่วนนี้น่าจะหักลบกับค่าขนย้ายสินค้ามาคลังใหม่

-ถ้าติดsolarครบจะได้2MW ประหยัดไฟได้เดือนละ~8แสนบาท เสร็จครบปลายปี น่าจะได้boi

-ตัวlogisticที่ทำประหยัดค่าเช่า/ปี 25-30ล้านบาท

-โรงงานที่บางนาเช่าอยู่25ล้าน/ปี ถ้าไม่ได้ใช้ก็จะประหยัดส่วนนี้ได้อีกก้อน

-สำรองskuที่ยกเลิกอัดเข้าQ1/67ไปหมดแล้ว

-skuใหม่ๆจะเข้าQ3ค่อนข้างเยอะ มีชีสกะเพรา/ชีสทรัฟเฟิ้ล/ชีสศรีราชา และมีตัวที่ลูกค้าเปลี่ยนมาใช้ของเรา skuใหม่ๆจะมีGPMที่สูงกว่าเดิม

-รู้เทรนราคาวัตถุดิบล่วงหน้า ทำให้สามารถlockราคาได้ระดับนึง เนื่องจากมีทีมวิเคราะห์+มีพาร์ทเนอร์ที่ดี

-ต้นทุนมีขึ้นแค่น้ำมันเนย เดือน7น่าจะเริ่มมีผลผลิตใหม่ ก็สามารถซื้อดีลพิเศษมาเฉลี่ยต้นทุนได้ ส่วนชีสราคาลง ใช้2อย่างนี้ใกล้ๆกัน

-กำลังR&Dบางอย่างที่จะมาลดผลประทบน้ำมันเนยในอนาคต

-กับNSLยังค้าขายกันดีอยู่ สินค้าบางอย่างทำร่วมกัน3ฝ่าย 7-11/KCG/NSL ถ้าเราคิดสูตรก็ต้องใช้วัตถุดิบจากเรา ล่าสุดก็ตัวเอแคร์ไส้ในเป็นสูตรเรา

-ยังคงมีคืนเงินกู้อย่างต่อเนื่อง จะได้ประหยัดดอกเบี้ย

-โลกเริ่มเข้าสู่ลานีญาน่าจะทำให้ปริมาณนมมากขึ้น ลองไปหาผลวิจัยความร้อนมีผลทำให้น้ำนมลดลงจริง

-ต้องการโตต่างประเทศ น่าจะออกไปทางB2B หลังจากที่ทำสำเร็จกับMcที่ฟิลิปปินส์และPepper lunchที่ญี่ปุ่น

-ส่วนตัวเชื่อว่าพอยุบโรงงานมาเหลือ2โรงน่าจะทำให้เกิดประสิทธิภาพอย่างที่tknและxoเคยทำมา

-ค่าเงินตั้งงบไว้ที่36บาท
ถ้า+/-1บาทมีผลต่อGPM0.6%/ปี

-มีแผนจะทำcheese snack ต้องรอลงเครื่องจักร น่าจะหลังจากย้ายคลังเรียบร้อยก่อน

-บริษัทจะลดsg&aอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะใช้ระบบออโต้มากขึ้น ความคุมงบการตลาดให้มีประสิทธิภาพ และจะมีโครงการอื่นๆเพิ่มเติม

ASML

🧐สัดส่วนรายได้ Q1 ของ ASML (ASML Holding N.V. ) บริษัทที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาและสร้างเครื่องผลิตชิป (Semiconductor) เพราะตอนนี้เครื่องที่ล้ำสุดสามารถทำได้บริษัทเดียวในโลก  👇

—–
🟢1. EUV (Extreme Ultraviolet Lithography)
🔸รายได้: €1.82B
🔸สัดส่วน 35%
.
✨เทคโนโลยี EUV เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตชิป Semiconductor ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยสร้างชิปที่เล็กลง แรงขึ้น และประหยัดพลังงาน โดยปัจจุบันมีเครื่อง High-NA EUV lithography ซึ่งมีค่า Numerical Aperture (NA) ที่สูง ทำให้พิมพ์ลวดลายบนแผ่น Wafer เพื่อสร้างวงจรที่ละเอียดและซับซ้อนมากขึ้น

—–
🟢2. ArFi (Argon Fluoride Immersion Lithography)
🔸รายได้: €1.55B
🔸สัดส่วน 29%

—–
🟢3. Installed Base Management
🔸รายได้: €1.32B
🔸สัดส่วน 25%

—–
🟢4. KrF (Krypton Fluoride Lithography)
🔸รายได้: €0.32B
🔸สัดส่วน 6%

—–
🟢5. I-line, M & I (I-line and Metrology & Inspection)
🔸รายได้: €0.16B
🔸สัดส่วน 3%

—–
🟢6. ArF Dry (Argon Fluoride Dry Lithography)
🔸รายได้: €0.12B
🔸สัดส่วน 2%

—–
🎯แปะประวัติย่อๆ ของ ASML ให้เพิ่มครับ

✨ASML Holding N.V. ก่อตั้งขึ้นในปี 1984 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Veldhoven ประเทศเนเธอร์แลนด์ บริษัทนี้เริ่มต้นจากการเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Philips และ ASM International โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและผลิตเครื่อง lithography สำหรับอุตสาหกรรม Semiconductor
.
ASML ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและกลายเป็นผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยี lithography สำหรับการผลิตชิป Semiconductor  มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยี EUV (Extreme Ultraviolet Lithography)

—–
🎯ลูกค้าหลักๆ ของ ASML ในปัจจุบัน 👇

🟢TSMC-Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (NYSE: TSM) / (TWSE: 2330)

✨TSMC เป็นผู้ผลิตชิป Semiconductor ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (Market Share 62%) และเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ ASML โดยใช้เทคโนโลยี EUV ของ ASML ในการผลิต Chip ขั้นสูงสำหรับลูกค้าอย่าง Nvidia , Apple, AMD, และอื่นๆ

.
🟢Samsung Electronics (KRX: 005930)

✨Samsung เป็นผู้ผลิต Semiconducto รายใหญ่อันดับ2ของโลก ที่ใช้เทคโนโลยีของ ASML ในการผลิต Chip ทั้งสำหรับ Memory และ Logic

.
🟢Intel Corporation (NASDAQ: INTC)

✨Intel เป็นผู้ผลิต Chip รายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ที่ใช้เทคโนโลยี lithography ของ ASML ในการผลิตชิปสำหรับคอมพิวเตอร์และ Server

.
____________________
Image: @ftr_investors

.
#ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน #ลงทุน #ลงทุนอะไรดี #หุ้น #หุ้นอเมริกา #ดาวโจนส์ #กองทุนรวม #หุ้นสหรัฐ

HTECH

Htech หุ้นเด้งที่ได้ประโยชน์จาก ai

By poonvalue

Business

    Htech ประกอบธุรกิจผลิตเครื่องมือตัดเฉือนโลหะ หรือ Cutting Tools อันได้แก่

PCD Cutting Tools เครื่องมือตัดเฉือนโลหะที่ทำมาจากเพชรสังเคราะห์ มี margin ดีที่สุดใช้กับอุตสาหกรรม hdd

SCD Cutting Tools  เครื่องมือตัดเฉือนโลหะที่ทำมาจากเพชรผลึกเดี่ยว ใช้กับอุตสาหกรรมผลิตเลนส์ นาฬิกา

PCBN Cutting Tools  เครื่องมือตัดเฉือนโลหะประเภทแข็งพิเศษ ใช้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องจักรกลต่างๆ

Carbide Cutting Tools เครื่องมือตัดเฉือนโลหะที่ทำมาจากคาร์ไบด์ ใช้กับผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำ

    มีสัดส่วนรายได้ 63 % จาก 2 อุตสาหกรรม ได้แก่ hdd และ ยานยนต์ (ในปี66)

ยานยนต์ 43 %

Hdd 20 %

Story

     จากเทรนการใช้ ai ไม่ว่าจะเป็น chatgpt datacenter  cloud ทำให้เกิดการประมวลข้อมูลมหาศาล มี demand hdd ขึ้นมา เพราะ hdd สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่า sdd backup ข้อมูลได้ และทำ cost-effective ได้ดีกว่า ร่วมทั้งก่อนหน้านึ้มีการลดกำลังการผลิต hdd ทำให้เกิด supply shortage

     จะเห็นว่าทั้ง wdc seagate ที่เป็นสองเจ้าใหญ่ผลิต hdd ในอเมริกา มีการออกจดหมายแจ้งตลาดว่า ของขาดผลิตไม่ทัน จาก demand ที่ขึ้นมา และมีการปรับราคาราย q 5-10  % ร่วมทั้งปรับเป้ารายได้ขึ้นทั้งสองเจ้าทั้งรายไตรมาสและรายปี

Valuation

       htech งบไตรมาส 1 มีกำไร 24-25 ล้าน จากแนวโน้มทั้ง wdc seagate ซึ้งเป็นสองเจ้าใหญ่ hdd และเป็นลูกค้าหลักของ htech ก็อนุมานได้ว่า cycle hdd กำลังกลับมา และเป็นตัวที่ margin ดีที่สุด น่าจะส่งผลงบ htech อย่างมีนัยยะสำคัญ

    ร่วมทั้งกับการที่บริษัทแจ้งข้อมูลใน agm 67 ว่าเริ่มเห็นยอด hdd กลับมาในช่วง q1 และมีforcast ยาวไปถึงสิ้นปี จากการสอบถาม ir เพิ่มเติม น่าจะเห็นยอดในการเติบโตใน q2 เป็นต้นไปอย่างมีนัยยะสำคัญ

    สมมุติว่ารายได้เพิ่มขึ้นมา 10 ล้าน จะลงบรรทัดล่าง 5 ล้าน เพราะ htech มีfixcost 50 % เป็นบริษัทที่มี high operating leverage

     ผมคิดว่ามีโอกาสเห็นกำไร ไตรมาสละ 30 ล้าน  โดยเฉลี่ย โดยมองว่ารายได้ในส่วน hdd อย่างน้อยกลับไปเท่ากับปี 65 ถ้าเอา 30 *4  จะเห็นกำไรปีนึ้ 120 ล้าน  mrkcap 1000 ล้าน เท่ากับหุ้นมี forward pe 8 เท่า ถ้าเทียบกับเทรดโดยเฉลี่ยในอดีต pe 15-20 เท่า ที่สำคัญยังเป็นเมกะเทรนด์ที่เกี่ยวกับ ai อีกด้วย

     ณ ปัจจุบัน ราคาหุ้น Seagate กับ wdc กำลังทำ all time high ในช่วงราคา rang นั้นในอดีต ราคาหุ้น htech มีมูลค่า 7-8 บาท

TAN

#TAN Oppday Q1/2024บมจ. ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น & United Arrows & SON แบรนใหม่ที่ Emsphere

📊 Hilight

– SG&A Q1 ที่สูงมาจาก พนักงานที่จ้างมาก่อนแต่ยังไม่รับรู้รายได้ใน ธุรกิจอาหาร และ Marketing ที่ต้องลงทุน เมื่อเปิด Brand ใหม่ และค่าการตลาดที่ทำการตลาดที่จีนของแบรน Harnn  ในจีน (ไตรมาสละประมาณ 6 ล้านกว่าบาท )
แต่ SG&A to Sales ในไตรมาสที่ 2 ควรมีทิศทางที่ดีขึ้น เพราะ Run ร้านอาหารแล้ว แต่ Q2 ยังเป็น ไตรมาสที่รายได้ต่ำที่สุดของปี

– Cath Kidston ในไตรมาสที่ 2 ดีขึ้น จากการได้รับสินค้ากลับมาสต๊อค SSSG กลับมาทิศทางที่ดี เพราะมีการลงสินค้าใหม่ๆ

– สินค้าที่จะส่งไปขายที่จีนเป็นระบบขายฝาก โดยมีตัวแทนจำหน่ายรับสินค้าไปแบบขายขาด ส่งออก Batch แรก July 2024

– ตั้งเป้าหมายรายได้ 3000-5000 ล้านบาทภายใน 5 ปี

– Operating Leverage การเช่าที่จุดคุ้มทุน ต้องน้อยกว่าสัญญาเช่า การบริหารจัดการคน และ ประสิทธิภาพของ ทีมงานพนักงานที่คงที่ แต่เพิ่ม ยอดรายได้ในแต่ละแบรน สาขาได้มากขึ้น

– ธุรกิจอาหาร รายได้ Daily Per Head ทำได้ใกล้เคียงกับแผนที่วางไว้

– การขยาย HARNN ในจีน ไม่จำเป็นต้องมีเยอะเป็น 1000 สาขา เนื่องจากการขายสินค้าปัจจุบันมีการซื้อ Online เยอะ โดยใน 18 เดือนแรกจะมี 15 สาขาในจีน แต่จะเน้นขายผ่าน supply chain model ของ distributor ซึ่งจะไปขายในร้านค้าต่างๆ ลักษณะเหมือน Sephora หรือ Beautriam

– ปีนี้จะเปิด united arrow เปิดแค่ 1 สาขา ในปี 2024 ที่ Emsphere

– HARNN ที่จีนจะเริ่มขายในเดือนกรกฎาคม และ ตั้งเป้า HARNN Global จะมีรายได้ที่จีน 20%

– กลุ่มลูกค้า Pandora อยู่ในช่วง ม.ปลายถึงมหาลัย Marimekko เป็นวัยทำงาน จนถึงอายุ 50 ปีก็ยังมาเป็นลูกค้า

======================
Brand ใหม่ TAN : United Arrows & SON แบรนใหม่ที่เริ่มเปิด 1 Shop ที่ The EMSPHERE เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2024

#เก้าอี้เศรษฐกิจ

CRM saleforce

สรุปประเด็นน่าสนใจจาก Saleforce ($CRM) Presents at Jefferies Software Conference 2024

  • ลูกค้าเกิดการชะลอการใช้จ่าย มีการเลื่อนดีลออกไปมากขึ้น ดีลปิดได้ยากขึ้น บริษัทบอกขนาดที่ว่า ครึ่งหลังของไตรมาสแรก แทบไม่มีการเซ็นสัญญาอะไรเพิ่มเลย
  • พอเข้าไตรมาส 2 ดูเหมือนเริ่มดีขึ้น บริษํทเลยเชื่อว่าการชะลอในไตรมาส 1 อาจจะชั่วคราว บริษัทเชื่อว่าส่วนนึงน่าจะมาจากการที่ลูกค้ากำลังประเมินผลกระทบของการเอา AI เข้ามาใช้
  • บริษัท ยุบทีมขาย Slack แล้วโอนงานไปอยู่ฝ่ายขายหลัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการหยุดชะงักในระยะสั้น แต่เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อองค์กรในระยะยาว
  • ยังเห็นการเติบโตของ Data cloud ซึ่งเชื่อว่าจะเป็น leading indicator สำหรับโอกาสในธุรกิจด้าน AI ที่อาศัยการ leverage ข้อมูลที่ลูกค้ามี โดย Service cloud กับ Sales Cloud ยังคงเติบโต
  • บริษัทกำลังพัฒนารูปแบบของการหารายได้สำหรับ AI ซึ่งอาจเปลี่ยนจากการกำหนดราคาตามจำนวนที่นั่ง ไปเป็นการคิดเงินตามธุรกรรม ซึ่งคาดว่าจะเป็น revenue model ต่อจากนี้
  • การชะลอใน 1Q เห็นชัดจากลูกค้า size ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่จำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถปิดดีลได้และมีการเลื่อนออกไป อย่างไรก็ตาม Salesforce ยังคงมั่นใจใน guideline ทั้งปี
    .

มมมองของชีพจรลงทุน

  • ถ้าดูจากผลประกอบการ จริงๆจะเห็นด้วยรายได้ miss เพียงเล็กน้อย ส่วนกำไร beat ด้วยซ้ำ แต่ราคากลับลดลงมากถึง -20% เป็นอีกตัวอย่างที่บอกว่า นักลงทุนใน US ไม่ได้ลงทุนตามผลประกอบการที่ออกมารายไตรมาสแบบ playbook ที่ใช้กับหุ้นไทย
  • สิ่งที่นักลงทุนให้น้ำหนักและติดตามมากกว่า คือ key metric ซึ่งตัวนึงคือ CRPO (Current Remaining Performance Obligation) ซึ่งมีการเติบโตที่ชะลอตัวลงตามที่บริษัทให้ภาพว่า มีการปิดดีลได้ยากขึ้น ลูกค้าเลื่อนการตัดสินใจออกไป
  • ซึ่งตลาดดูจะพยายาม price in ความคาดหวังเรื่องนี้ ล่วงหน้าอย่างน้อย 6-12 เดือนตามภาพ แปลว่า ราคาจะนำ CRPO ไปก่อนอย่างน้อยๆ 6 เดือน พอมันชะลอตัวลงมากกว่าคาดแล้วมีตัวเลขที่เคยเห็นมาก่อนแล้วมาก่อนหน้านี้ ตลาดเลยกำลังหาจุดสมดุลใหม่
  • อีกประเด็นที่อธิบายว่าทำไม miss เล็กน้อยถึงได้กระทบรุนแรง เหตุผลเพราะ Saleforce เป็น SaaS company ที่มี operating leverage ค่อนข้างสูง แปลว่าเวลาดี จะดีมาก เวลาชะลอก็จะกระทบมากเช่นกัน ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงปรับเปลี่ยน ทำให้ความผันผวนจะสุงกว่าปกติ แต่ถ้าบริษัทเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว ความผันผวนตรงนี้ควรจะลดลง
  • message จาก Saleforce เลยดึงเพื่อนๆ SaaS ตัวอื่นๆที่อาจจะเกี่ยวข้องลงมาด้วยเลยทั้งแผงเมื่อคืนนี้ครับ

Luckin coffee

ถ้าใครตามข่าววงการร้านกาแฟจีนช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา หนึ่งในแบรนด์ที่มาแรงที่สุดคือ Luckin Coffee สตาร์ทอัพกาแฟสัญชาติจีน ที่เป็นมวยรองน้องใหม่ แต่สู้กับพี่ใหญ่อย่าง Starbucks ได้ดุเดือดมากๆ
.
จนกระทั่งปี 2020 Luckin Coffee ก็สะดุดขาตัวเองล้ม เพราะโกหกตัวเลขยอดขาย ตกแต่งบัญชี แหกตานักลงทุน หุ้นร่วงไปถึง 70%
.
จนนักวิเคราะห์หลายคนบอกว่า ไม่รอดแน่ๆ ยังไงก็เจ๊ง
.
แต่มาวันนี้ปี 2024 Luckin Coffee ยังไม่ล่มสลาย ยอดขายยังคงพุ่งขึ้น ส่วนจำนวนสาขาก็แซงหน้า Starbucks คู่แข่งคนสำคัญในจีนไปแล้ว
.
คำถามคือ อะไรที่ทำให้ Luckin Coffee กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งหลังข่าวฉาว
.
Brand Inside สรุปให้ในบทความนี้
.
🔵 รอดมาได้ เพราะคอนเนคชั่นดี มีนายแบก
Zang Zhongtang อดีตรองประธานอาวุโสของ Luckin Coffee ที่ลาออกจากบริษัทหลังมีข่าวการทุจริตของบริษัทในตอนนั้น บอกว่า “ใครๆ ก็คิดว่าไม่น่ารอด เพราะหลักฐานมันชัดว่าทำผิดกฎหมายจริง ตกแต่งบัญชีจริง”
.
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร Luckin Coffee ก็รอดมาได้
.
ปัจจัยหลักๆ มาจากการเปลี่ยนตัวผู้บริหารและทีมบริหาร แต่รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในคีย์แมนสำคัญที่หนุนหลัง Luckin Coffee ในช่วงเวลาที่ยากลำบากก็คือ Centurium Capital บริษัทลงทุนที่ศัพท์ในวงการเรียกกันว่า Private Equity
.
Centurium Capital ช่วยเหลือ Luckin Coffee เคลียร์ปัญหาด้านกฎหมายที่โยงใยมาจากการทุจริต ด้วยการออกเงินให้ไปสู้คดีและเสียค่าปรับจากคดีโกงตัวเลขยอดขาย รวมๆ แล้วคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 240 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 9 พันล้านบาท
.
นี่คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Luckin Coffee ฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง
.
🔵 เกือบหลับ แต่กลับมาได้ แถมแซงหน้าคู่แข่งด้วย
ข่าวฉาวคดีทุจริตตกแต่งบัญชีทำอะไร Luckin Coffee สตาร์ทอัพกาแฟสัญชาติจีนไม่ได้จริงๆ
.
ตอนนี้กิจการของ Luckin Coffee ดีวันดีคืน สวนทางกับเศรษฐกิจจีนที่ย่ำแย่ (ผลจากการผสมโรงระหว่างวิกฤตเงินฝืดและวิกฤตอสังหาฯ ที่ส่งผลกระทบไปทั่วทั้งระบบเศรษฐกิจของจีน)
.
ปัจจุบันยอดขายของ Luckin Coffee แซงหน้า Starbucks ในจีนเป็นที่เรียบร้อย
.
ปี 2023 Luckin Coffee ทำยอดขายไปได้มากถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทย 1.3 แสนล้านบาท พุ่งขึ้นมาจากปีก่อนถึง 87%
สวนทางกับ Starbucks ที่ยอดขายปี 2023 ลดลง 8% จากปีก่อนหน้า มูลค่ายอดขายรวมอยู่ที่ 3.05 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทย 1.1 แสนล้านบาท
.
และถ้าไปดูจำนวนสาขาของ Luckin Coffee ก็แซงหน้า Starbucks เป็นที่เรียบร้อย
.
Luckin Coffee มีสาขาในประเทศจีนทั้งหมด 16,218 แห่ง
Starbucks มีสาขาในประเทศจีนทั้งหมด 6,975 แห่ง
คิดง่ายๆ คือ Luckin Coffee มีสาขามากกว่า Starbucks ในจีนเกือบ 3 เท่าตัว (แต่ถ้านับสาขาของ Starbucks ทั่วโลกจะอยู่ที่ 38,586 แห่ง)
.
🔵 Luckin Coffee คัมแบ็ค! นี่คือคู่แข่งที่น่ากลัวของ Starbucks ในจีน
ถ้ามองในมุมตัวเลข ตอนนี้ Luckin Coffee ชนะ Starbucks ในจีน ทั้งตัวเลขยอดขาย และจำนวนสาขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
.
ส่วนด้านของ Starbucks ในจีนก็ดิ้นสู้ทุกทาง เช่น ใช้ระบบสั่งกาแฟผ่านมือถือ แต่ก็ตามหลัง Luckin Coffee อยู่ เพราะด้วยโมเดลธุรกิจที่ Luckin Coffee ใช้เทคโนโลยีในแผนธุรกิจตั้งแต่ Day One เป็นต้นว่า ลูกค้าจะสั่งกาแฟของ Luckin Coffee ผ่านมือถือบนระบบออนไลน์ได้เท่านั้น ไม่มีการจ่ายเงินสดหน้าร้าน
.
ในแง่นี้ Luckin Coffee นำหน้าไปไกลกว่ามาก เพราะถ้าพูดถึงคำว่า ‘เทคโนโลยี’ กับ Luckin Coffee ตอนนี้ไปไกลถึงขั้นนำเอาระบบอัตโนมัติมาดูเลยว่า สาขาไหนวัตถุดิบเหลือน้อย คอมพิวเตอร์จะสั่งให้เติมของทันที ไม่ต้องใช้มนุษย์เข้ามาจัดการระบบหลังบ้าน หรือถ้าใช้ก็น้อยมากๆ
.
และที่สำคัญ Luckin Coffee ไม่ทำเอาเท่ๆ แต่ทำเพื่อลดต้นทุน และลดการใช้แรงงานคน
.
มากไปกว่านั้น ถ้ามองในมุมสงครามราคา หากเราเทียบกาแฟจีนกันแบบหมัดต่อหมัด ค่ากาแฟเฉลี่ย 1 แก้ว
.
Luckin Coffee 11-12 หยวน คิดเป็นเงินไทย 55-60 บาท
Starbucks 33 หยวน คิดเป็นเงินไทย 170 บาท
นี่คือความได้เปรียบ เพราะ Luckin Coffee ถูกกว่า Starbucks ถึง 3 เท่า!
.
สิ่งที่น่าติดตามหลังจากนี้คือ Starbucks จะแก้เกมในจีนยังไง เพราะแม้จีนจะเศรษฐกิจไม่ดี แต่ตลาดกาแฟจีนโตขึ้น 15% ในมุมของการบริโภค (coffee consumption)
.
คำถามที่สำคัญจึงเป็น ทำไม Starbucks ถึงไม่ได้ประโยชน์จากสิ่งนี้ แต่กลับกลายเป็น Luckin Coffee ที่ตีกินไปเต็มๆ

luckincoffee #starbucks #coffee #China #brandinside

Luckin coffee

ถ้าใครตามข่าววงการร้านกาแฟจีนช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา หนึ่งในแบรนด์ที่มาแรงที่สุดคือ Luckin Coffee สตาร์ทอัพกาแฟสัญชาติจีน ที่เป็นมวยรองน้องใหม่ แต่สู้กับพี่ใหญ่อย่าง Starbucks ได้ดุเดือดมากๆ
.
จนกระทั่งปี 2020 Luckin Coffee ก็สะดุดขาตัวเองล้ม เพราะโกหกตัวเลขยอดขาย ตกแต่งบัญชี แหกตานักลงทุน หุ้นร่วงไปถึง 70%
.
จนนักวิเคราะห์หลายคนบอกว่า ไม่รอดแน่ๆ ยังไงก็เจ๊ง
.
แต่มาวันนี้ปี 2024 Luckin Coffee ยังไม่ล่มสลาย ยอดขายยังคงพุ่งขึ้น ส่วนจำนวนสาขาก็แซงหน้า Starbucks คู่แข่งคนสำคัญในจีนไปแล้ว
.
คำถามคือ อะไรที่ทำให้ Luckin Coffee กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งหลังข่าวฉาว
.
Brand Inside สรุปให้ในบทความนี้
.
🔵 รอดมาได้ เพราะคอนเนคชั่นดี มีนายแบก
Zang Zhongtang อดีตรองประธานอาวุโสของ Luckin Coffee ที่ลาออกจากบริษัทหลังมีข่าวการทุจริตของบริษัทในตอนนั้น บอกว่า “ใครๆ ก็คิดว่าไม่น่ารอด เพราะหลักฐานมันชัดว่าทำผิดกฎหมายจริง ตกแต่งบัญชีจริง”
.
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร Luckin Coffee ก็รอดมาได้
.
ปัจจัยหลักๆ มาจากการเปลี่ยนตัวผู้บริหารและทีมบริหาร แต่รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในคีย์แมนสำคัญที่หนุนหลัง Luckin Coffee ในช่วงเวลาที่ยากลำบากก็คือ Centurium Capital บริษัทลงทุนที่ศัพท์ในวงการเรียกกันว่า Private Equity
.
Centurium Capital ช่วยเหลือ Luckin Coffee เคลียร์ปัญหาด้านกฎหมายที่โยงใยมาจากการทุจริต ด้วยการออกเงินให้ไปสู้คดีและเสียค่าปรับจากคดีโกงตัวเลขยอดขาย รวมๆ แล้วคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 240 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 9 พันล้านบาท
.
นี่คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Luckin Coffee ฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง
.
🔵 เกือบหลับ แต่กลับมาได้ แถมแซงหน้าคู่แข่งด้วย
ข่าวฉาวคดีทุจริตตกแต่งบัญชีทำอะไร Luckin Coffee สตาร์ทอัพกาแฟสัญชาติจีนไม่ได้จริงๆ
.
ตอนนี้กิจการของ Luckin Coffee ดีวันดีคืน สวนทางกับเศรษฐกิจจีนที่ย่ำแย่ (ผลจากการผสมโรงระหว่างวิกฤตเงินฝืดและวิกฤตอสังหาฯ ที่ส่งผลกระทบไปทั่วทั้งระบบเศรษฐกิจของจีน)
.
ปัจจุบันยอดขายของ Luckin Coffee แซงหน้า Starbucks ในจีนเป็นที่เรียบร้อย
.
ปี 2023 Luckin Coffee ทำยอดขายไปได้มากถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทย 1.3 แสนล้านบาท พุ่งขึ้นมาจากปีก่อนถึง 87%
สวนทางกับ Starbucks ที่ยอดขายปี 2023 ลดลง 8% จากปีก่อนหน้า มูลค่ายอดขายรวมอยู่ที่ 3.05 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทย 1.1 แสนล้านบาท
.
และถ้าไปดูจำนวนสาขาของ Luckin Coffee ก็แซงหน้า Starbucks เป็นที่เรียบร้อย
.
Luckin Coffee มีสาขาในประเทศจีนทั้งหมด 16,218 แห่ง
Starbucks มีสาขาในประเทศจีนทั้งหมด 6,975 แห่ง
คิดง่ายๆ คือ Luckin Coffee มีสาขามากกว่า Starbucks ในจีนเกือบ 3 เท่าตัว (แต่ถ้านับสาขาของ Starbucks ทั่วโลกจะอยู่ที่ 38,586 แห่ง)
.
🔵 Luckin Coffee คัมแบ็ค! นี่คือคู่แข่งที่น่ากลัวของ Starbucks ในจีน
ถ้ามองในมุมตัวเลข ตอนนี้ Luckin Coffee ชนะ Starbucks ในจีน ทั้งตัวเลขยอดขาย และจำนวนสาขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
.
ส่วนด้านของ Starbucks ในจีนก็ดิ้นสู้ทุกทาง เช่น ใช้ระบบสั่งกาแฟผ่านมือถือ แต่ก็ตามหลัง Luckin Coffee อยู่ เพราะด้วยโมเดลธุรกิจที่ Luckin Coffee ใช้เทคโนโลยีในแผนธุรกิจตั้งแต่ Day One เป็นต้นว่า ลูกค้าจะสั่งกาแฟของ Luckin Coffee ผ่านมือถือบนระบบออนไลน์ได้เท่านั้น ไม่มีการจ่ายเงินสดหน้าร้าน
.
ในแง่นี้ Luckin Coffee นำหน้าไปไกลกว่ามาก เพราะถ้าพูดถึงคำว่า ‘เทคโนโลยี’ กับ Luckin Coffee ตอนนี้ไปไกลถึงขั้นนำเอาระบบอัตโนมัติมาดูเลยว่า สาขาไหนวัตถุดิบเหลือน้อย คอมพิวเตอร์จะสั่งให้เติมของทันที ไม่ต้องใช้มนุษย์เข้ามาจัดการระบบหลังบ้าน หรือถ้าใช้ก็น้อยมากๆ
.
และที่สำคัญ Luckin Coffee ไม่ทำเอาเท่ๆ แต่ทำเพื่อลดต้นทุน และลดการใช้แรงงานคน
.
มากไปกว่านั้น ถ้ามองในมุมสงครามราคา หากเราเทียบกาแฟจีนกันแบบหมัดต่อหมัด ค่ากาแฟเฉลี่ย 1 แก้ว
.
Luckin Coffee 11-12 หยวน คิดเป็นเงินไทย 55-60 บาท
Starbucks 33 หยวน คิดเป็นเงินไทย 170 บาท
นี่คือความได้เปรียบ เพราะ Luckin Coffee ถูกกว่า Starbucks ถึง 3 เท่า!
.
สิ่งที่น่าติดตามหลังจากนี้คือ Starbucks จะแก้เกมในจีนยังไง เพราะแม้จีนจะเศรษฐกิจไม่ดี แต่ตลาดกาแฟจีนโตขึ้น 15% ในมุมของการบริโภค (coffee consumption)
.
คำถามที่สำคัญจึงเป็น ทำไม Starbucks ถึงไม่ได้ประโยชน์จากสิ่งนี้ แต่กลับกลายเป็น Luckin Coffee ที่ตีกินไปเต็มๆ

luckincoffee #starbucks #coffee #China #brandinside

โรงพยาบาล

ธุรกิจ โรงพยาบาล และ Aesthetic by น้อง Pop

(1) ธุรกิจโรงพยาบาล

1.1 ทำไมธุรกิจโรงพยาบาลจึงน่าสนใจ?

  • ธุรกิจโรงพยาบาลมี Barrier to entry สูง และ Supply ไม่พอกับ Demand
    มีความผูกขาดในพื้นที่นั้นจากข้อจำกัดด้านการเดินทาง
    ได้ประโยชน์จาก Aging society ทำให้รายได้เพิ่มในระยะยาว
    มีความสามารถในการขึ้นราคาไปเรื่อยๆ
    แนวโน้มกำไรและเงินปันผลเติบโต

1.2 โรงพยาบาลที่น่าสนใจมีลักษณะอย่างไร?

-อัตราการครองเตียง ต้องมีโอกาสเติบโต

Indicator หลัก ในการดูหุ้นกลุ่ม รพ คือ อัตราการครองเตียง
ถ้าอัตราการครองเตียงระดับ 75-80% เป็นระดับที่เต็มcapacity ,ROE จะสูง แต่โอกาสเติบโตน้อย
แต่ถ้าอัตราการครองเตียงต่ำ หมายถึง ROE ต่ำ โอกาสในการเติบโตมาก

  • การขยาย Capacity ของโรงพยาบาล(โดยเฉพาะห้องสำหรับผู้ป่วยที่ต้องพักค้างคืน) มี 2 ทาง คือ
  1. ขยายจากcapacity ของโรงพยาบาลเดิม
  2. ขยายสาขาในพื้นที่ใหม่
    จุดสำคัญต้องดูจำนวนเตียงเป็นหลัก ไม่ใช่จำนวนสาขา เพราะแต่ละสาขาจะมี Capacity ในการรักษาไม่เท่ากัน
    เทียบปริมาณเตียงสำหรับผู้ป่วยในที่เพิ่มขึ้นว่าเพิ่มขึ้นกี่%เมื่อเทียบกับจำนวนห้องเดิม

การดูUpside โดยคาดการณ์จากกำไรในอนาคต
คาดการณ์จากรายได้ในอนาคตที่ระดับ Capacity ที่ระดับ 75-80%
นำกำไรที่ได้คาดการณ์มาคูณด้วย PE 20-30 เท่า เพื่อหามูลค่าเหมาะสม

ธุรกิจโรงพยาบาลจะมี Fixed cost สูง เช่น
ค่าจ้างผู้บริหาร ค่าเสื่อมราคา และ ค่าจ้างพนักงาน ดอกเบี้ยจ่าย ซึ่งไม่เพิ่มขึ้นตามรายได้
ส่วน Variable cost หลักคือค่าแพทย์และค่ายา ซึ่งเพิ่มขึ้นตามรายได้
จุดที่ Break even หากรายได้เพิ่ม กำไรจะเติบโตในอัตราเร่ง เป็นจุดที่น่าสนใจ และเป็นจังหวะในการลงทุน

จังหวะในการลงทุนหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล
1.ค่าเสื่อมราคา มีอัตราการเพิ่มที่ลดลงมาก ดูจากงบกระแสเงินสด

  1. “ภาระผูกพันรายจ่ายฝ่ายทุน” ลดลง สามารถดูได้ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน จุดที่ item นี้ใกล้ 0 แสดงว่าในอนาคตต้นทุนจะไม่เพิ่มขึ้นแล้ว
    (ตัวอย่างตอนที่ VIH มีการซื้ออุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์
    ซึ่งจะต้องติดตามทุกไตรมาสว่าภาระผูกพันธ์เมื่อไหร่ที่ไม่เพิ่มขึ้น อันนี้จะเป็นสัญญาณบอกว่า กำไรจะกลับมาปกติทุกสาขา)

ธุรกิจความงาม แบ่งได้เป็น ธุรกิจโรงพยาบาลศัลยกรรม และ ธุรกิจคลินิกความงาม

(2) ธุรกิจโรงพยาบาลศัลยกรรม
ความน่าสนใจ
1.ลูกค้าที่มาทำศัลยกรรมไม่จำเป็นต้องเป็นคนในพื้นที่นั้นๆ
2.ลงทุนน้อยกว่าธุรกิจรพทั่วไป เพราะ ลงทุนสร้างอาคารน้อยกว่า และ ห้องผู้ป่วยน้อย เพราะทำเสร็จก็กลับบ้านได้
3.รายได้ต่อหัวสูงกว่า รพ ทั่วไป 3-4 เท่า
4.ปัจจัยการเติบโตของธุรกิจรพ ศัลยกรรม มาจาก การเพิ่ม U-rate ของห้องผ่าตัด ,การขยายชั่วโมงการใช้งานห้องผ่าตัด , การขยายจำนวนห้องผ่าตัด

(3) ธุรกิจคลินิกความงาม
ความน่าสนใจ
1.รายได้มีความเป็น Recurring เพราะต้องกลับมาทำซ้ำ

  1. มักทำเพิ่มขึ้นตามอายุที่เพิ่ม

ปัจจัยการเติบโตมาจาก

  1. การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม หรือ SSSG
  2. การขยายสาขาเพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มพื้นที่ใหม่ๆ

Medical

🐑แกะงบ 4 หุ้นยาตัวดังในตลาดอเมริกา
+—————————————-+
LLY – Eli Lilly and Company
ทำธุรกิจค้นคว้าและพัฒนายารักษาโรคต่าง ๆ รวมถึงขายยา เด่นเรื่อง ยารักษาโรคเบาหวาน มะเร็งเต้านมชนิดหนึ่ง และยาตัวใหม่สำหรับคนที่เป็นโรคอ้วน
+—————————————-+
JNJ – Johnson & Johnson
ทำธุรกิจ 3 ประเภทหลักๆ
1.ยา รายได้ 51%
เน้นวิจัยและพัฒนายา
2.อุปกรณ์ทางการแพทย์ รายได้ 32%
เน้นไปที่การพัฒนาอุปกรณ์สำหรับการผ่าตัด
3.สินค้าอุปโภคบริโภค รายได้ 17%
เน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย ex แป้งJohnson , ครีมกันแดด Neutrogena, ยาแก้ปวด Tylenol
+—————————————-+
MRK – Merck & Co., Inc.
ทำธุรกิจ 3 ประเภทหลักๆ
1.ยา รายได้ 73%
เน้นวิจัยและพัฒนายา
2.วัคซีน รายได้ 14%
เน้นไปที่การพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ เช่น วัคซีน Gardasil (ป้องกันมะเร็งปากมดลูก), วัคซีน MMR (ป้องกันโรคหัด คางทูม และโรคหัดเยอรมัน)
3.สัตว์ รายได้ 13%
พัฒนายาและวัคซีนสำหรับสัตว์ เช่น Bravecto (ยาป้องกันเห็บหมัดและพยาธิในสุนัข), Nobivac rabies vaccine (วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์เลี้ยง)
+—————————————-+
ABBV – AbbVie Inc.
ทำธุรกิจค้นคว้าและพัฒนายารักษาโรคต่าง ๆ รวมถึงขายยาเหมือน LLY
ยาที่ขายดีสุดคือ Humira คิดเป็น 37% ของรายได้รวม
รักษาโรคข้ออักเสบ เช่น รูมาตอยด์ สะเก็ดเงิน และโรคลำไส้เรื้อรัง
+—————————————-+
ด้านงบการเงิน
เรียงตาม market cap. ณ 2024
LLY > JNJ > MRK > ABBV

revenue
JNJ มากสุด แต่ ABBV โต YOY เยอะสุด

GMP
ไม่ได้ต่างกันมาก เฉลี่ย 60-70%

NPM
วัดกันตรงนี้ มี ABBV ที่ยังรักษากำไรสุทธิไว้ได้ ค่อนข้าง conservative
มีLLY กับ JNJ ที่ค่อนข้างผันผวน

R&D
MRK ลงทุนมากสุดในปี 2023

SG&A
JNJ มากสุด ก็คงที่มาตลอดไม่ได้มีแนวโน้มเพิ่ม มี ABBV ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากสุด ซึ่งพอมาเทียบยอดขายแล้วห่วยสุด แปลว่าค่าใช้จ่ายเพิ่ม ไม่ได้ช่วยให้ยอดขายโตเท่าไหร่ มีตัวที่ดีๆ ชัด จะเป็น LLY MRK

ด้านสภาพคล่อง
มี ABBV ที่โดดๆ ทำให้ตัวอื่นดูเล็กน้อยไปเลย มาจากปีก่อนที่เงินสดสุทธิมาจากการดำเนินงาน ปีต่อมาก็นำเงินไปลงทุนต่อ ทำให้เงินสดสุทธิติดลบ

วงจรเงินสด
LLY ไม่ค่อยดีเท่าไหร่โดดจากเพื่อนมามาก แปลว่าจะได้เงินช้ากว่าชาวบ้าน

เงินทุนหมุนเวียน
มี MRK ที่ยังรักษาเงินหมุนเวียนไว้ได้อยู่ โดยถ้าสังเกตุปี 2019 เป็นปีที่ ABBV มีเงินหมุนเวียนมาก ซึ่งสอดคล้องกับเงินสดสุทธิ

+—————————————-+
สรุปหุ้น เรียงจากที่ผมชอบมากไปน้อย (ความเห็นส่วนตัว)
ด้านผลประกอบการ
LLY > ABBV > JNJ > MRK
ด้านค่าใช้จ่าย
LLY > MRK > JNJ > ABBV
ด้านสภาพคล่อง
MRK > JNJ > LLY > ABBV
+—————————————-+
สนใจเปิดบัญชีหุ้นต่างประเทศ พร้อมเข้ากลุ่ม VIP ดูรายละเอียดใต้คอมเม้นต์

Microchip

🐑แกะงบ 4 หุ้น semiconductorที่มี market cap.ใหญ่ที่สุด 4 อันดับแรก
+——————————————–+
🎯1.NVDA – NVIDIA Corporation (ปิดงบไม่ตรงชาวบ้าน)
ทำธุรกิจออกแบบ พัฒนา และผลิตชิพประมวลผลกราฟิก (GPU) และที่เกี่ยวข้อง ใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น การ์ดจอในการเล่นเกม ชิพคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง (HPC) เพื่อใช้กับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และชิปแสดงผลรถยนต์ไฟฟ้า

+จุดเด่น
1.ด้านการออกแบบ ใช้ข้อมูลประมวลผลน้อยกว่าเจ้าอื่น ใช้พร้อมทั้งจดสิทธิบัตรแล้ว
2.มีการลงทุน R&D สูง พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เทคโนโลยีทิ้งห่างจากคู่แข่งมาก
3.แบรนด์แข็งแกร่ง ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ทั่วโลก ทั้งชิปและการ์จอ GPU

+สัดส่วนรายได้
1.Data Center 86.63 %
ขายชิพ และระบบคลาวด์ให้บริษัทใหญ่ๆเช่า ในการพัฒนา AI.
2.Gaming 10.16 %
ขายการ์ดจอ GeForce สำหรับเล่นเกม
3.Professional Visualization 1.64 %
ขายชิพประมวลผลกราฟิก และซอฟต์แวร์ สำหรับงานออกแบบ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม และภาพยนตร์
4.Automotive 1.26 %
ขายชิพและซอฟต์แวร์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า สำหรับระบบขับขี่อัตโนมัติ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ และระบบความบันเทิงในรถยนต์
5.OEM and Other 0.03 %
ขายชิพประมวลผลกราฟิก (GPU) และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ให้กับลูกค้า OEM และลูกค้ารายอื่นๆ

+ลูกค้า
บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ เกมเมอร์ นักวิจัย นักพัฒนาA.I. กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า

+——————————————–+
🎯2.TSM – Taiwan Semiconductor Manufacturing ADR
ออกแบบ ผลิต และ จำหน่าย แผงวงจรรวม และ เวเฟอร์ ซิลิคอน ให้กับบริษัทอื่นๆทั่วโลก โดยผลิตตามคำสั่งจากลูกค้า ไม่ได้ผลิตเอง มีการผลิตที่หลากหลายมากกว่า ถือเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในโลก ใหญ่กว่า NVIDIA
+จุดเด่น

  1. มีโรงงานผลิตหลายแห่งทั่วโลก และ กำลังขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการประหยัดต่อขนาด
    2.ผู้ผลิตชิปที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ บริษัทมีประสบการณ์ยาวนานด้านคุณภาพ
    3.ลูกค้ามีหลากหลายประเภท ลดความเสี่ยงด้านรายได้ของบริษัทที่ผันผวน

+สัดส่วนรายได้
1.สมาร์ทโฟน 41%
2.คอมพิวเตอร์ 39%
3.อุปกรณ์ IoT 10%
4.ยานยนต์ 5%
5.อื่นๆ 5%

+ลูกค้า
บ.เทคชั้นนำ เช่น Apple, Qualcomm, AMD, Huawei, MediaTek, NVIDIA
กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า Tesla, General Motors, Ford, Toyota, BMW

+——————————————–+
🎯3.AVGO – Broadcom Inc.
ออกแบบ ผลิต และจำหน่ายชิป แผงวงจรรวมแบบอะนาล็อก วงจรรวม RF วงจรรวมดิจิทัล และซอฟต์แวร์

+จุดเด่น
1.เชี่ยวชาญด้านวงจรรวม ที่เป็นส่วนประกอบในอุปกรณ์สื่อสาร
2.การวิจัยและพัฒนาต่อเนื่อง พร้อมจดสิทธิบัตร
3.ชิปสำหรับอุปกรณ์เครือข่าย รองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูง รองรับการใช้งาน 5G
เช่น แล็ปท็อป ชิปสำหรับทีวี กล้องวงจรปิด เครื่องใช้ไฟฟ้า
4.มีการพัฒนา ซอฟต์แวร์ เสริมประสิทธิภาพการใช้งานฮาร์ดแวร์ ทำให่มีต้นทุนการเปลี่ยนย้าย

+สัดส่วนรายได้
1.Semiconductor Solutions Group (SSG) 74%
1.1แผงจรรวมแบบอะนาล็อก – แปลงสัญญาณแอนะล็อกเป็นดิจิทัล
1.2วงจรรวม RF – รับส่งสัญญาณวิทยุ หัวใจสำคัญของเทคโนโลยีไร้สาย
1.3วงจรรวมผสมสัญญาณ – ผสานวงจรรวมแบบอะนาล็อกและ RF บนชิปเดียว
1.4วงจรรวมดิจิทัล – ชิพประมวลผลข้อมูล
2.Broadcom Software Group (BSG) 8%
ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ เครื่องมือพัฒนา ซอฟต์แวร์แอปพลิเคชัน
3.Networking and Communications Group (NCG) 18%
อุปกรณ์เครือข่าย

+ลูกค้า
1.ผู้ให้บริการเครือข่าย เช่น Verizon, AT&T, China Mobile
2.ผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น Huawei, Nokia
+——————————————–+
🎯4.AMD
ออกแบบ ผลิต และจำหน่ายปรเซสเซอร์ (CPU) , ชิพประมวลผลกราฟิก (GPU) และอื่นๆ
เช่น มีซอฟต์แวร์ของตัวเองรองรับผลิตภัณฑ์ตัวเอง รับงานจากลูกค้าออกแบบและผลิตชิปตามสัญญา และผลิตชิปเซ็ตของตัวเอง

CPU – โปรเซสเซอร์
ควบคุมการประมวลผลข้อมูลของคอมพิวเตอร์

GPU – ชิพประมวลผลกราฟิก
ประมวลผลกราฟิก แสดงผลภาพให้ลื่นไหล

+จุดเด่น

  1. AMD มีราคาผลิตภัณฑ์ถูกกว่าของ NVIDIA
    2.ประสิทธิภาพคุ้มค่าต่อราคามากกว่า
    3.ซีพียู AMD Zen ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน
    4.AMD มีชุมชนนักพัฒนา เป็นcommunityที่แข็งแกร่งที่พร้อมสนับสนุน การพัฒนา ซอฟต์แวร์ ใหม่ๆ

+สัดส่วนรายได้
1.ลูกค้า 42.70%
รายได้จากส่วนนี้ประกอบด้วยการขายโปรเซสเซอร์(CPU) และชิปเซ็ตสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและ แล็ปท็อป
2.เกม 25.00%
ขายชิพประมวลผลกราฟิกที่เกี่ยวข้องกับเกม เช่น AMD Radeon GPU
3.ดาต้าเซ็นเตอร์ 16.85%
ชิปประมวลผลกราฟิก (GPU) สำหรับการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่และการใช้งาน AI
4.ชิปฝังตัว 15.46%
ชิปที่ฝังตัวในอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ในรถยนต์ไฟฟ้า เครื่องมือแพทย์บางชนิด พวกIOT สมาร์ทโฮม และระบบติดตามสุขภาพ

+ลูกค้า
1.ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์
เช่น Dell, HP, Lenovo
2.ผู้ใช้งานทั่วไป ที่ต้องใช้การ์ดจอ สำหรับใช้เรียน ทำงาน
3.องค์กรและธุรกิจ
เช่าเซิร์ฟเวอร์และโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อทำงานด้านข้อมูล และพัฒนา AI.
4.ผู้ให้บริการคลาวด์
เช่น Amazon Web Services (AWS), Microsoft Azure, Google Cloud
5.ผู้พัฒนาระบบฝังตัว
ใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า, อุปกรณ์การแพทย์, ระบบปฏิบัติการอัตโนมัติ
+——————————————–+

ออกแบบเว็บแบบนี้ด้วย WordPress.com
เริ่มต้น