CV PHG โรงพยาบาลแพทย์รังสิต
11-7-24
เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2529 ( 38 ปี ) เป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรก ในจังหวัดปทุมธานี
ครอบครัวแย้มสอาด ครอบครัวตระกูลช่าง และครอบครัวฮันตระกูลเป็น ผู้ก่อตั้ง
ประกอบไปด้วยโรงพยาบาลแพทย์รังสิต 1(ประกันสังคม) 155 เตียง / 30 ห้อง OPD , โรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2 59 เตียง / 29 ห้อง OPD , โรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต 56 เตียง / 15 ห้อง OPD
รวมมี ห้อง OPD 74 ห้อง / IPD 270 เตียง แพทย์ Full Time 63 คน Part Time 428 คน
สัดส่วนรายได้ (โดยประมาณ) Self-Pay 53% SSO (ประกันสังคมตามมาตรา 33 , 39) 34% อื่นๆเช่นบัตรทอง ข้าราชการ 12%
18 Medical Center /โดยมีโรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็ก / ศูนย์ Neuphroblogy รวมถึงศูนย์ Cathlab ที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และเป็นศูนย์หัวใจระดับ 1 ของสปสชเขต 4
IPD Occupancy Rate (FY20 / FY21 / FY22 / FY23 ) 61.96% / 80.08% / 85.92% / 86.41% ( เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง )
(1Q23 – 1Q24) 82.25% – 77.39%
OPD Occupancy Rate (FY20 / FY21 / FY22 / FY23 ) 48.27% / 46.97% / 59.28% / 64.75% ( เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง )
(1Q23 – 1Q24) 60.47% – 68.09%
SSO Insurers ( สัดส่วนจำนวนคนไข้ประกันสังคมของ PHG ต่อ คนไข้ประกันสังคมของจังหวัดปทุมธานี (FY20 / FY21 / FY22 / 1Q24 ) 22.5% / 22.1% / 24.5% / 26.9% / 27.4%
คนไข้ประกันสังคมเฉลี่ยในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2024 155,489 คน
จำนวนคนไข้ผ่าตัดหัวใจแบบเปิด : คน (FY20 / FY21 / FY22 / FY23) 174 / 128 / 119 / 178
(1Q23 – 1Q24) 35 – 53 (+51%)
จำนวนคนไข้ Cathlab (ฉีดสีสวนหลอดเลือดหัวใจ) : คน (FY20 / FY21 / FY22 / FY23) 2,805 / 2,722 / 3,018 / 3,406
(1Q23 – 1Q24) 817 – 958 (+17%)
OR Cases FY22 – FY23 4,664 – 5,666
(1Q23 – 1Q24) 1,308 – 1,574
Total Revenue ( Normalize – ตัดรายได้ Covid ออก ) MBaht (FY20 / FY21 / FY22 / 9M22 / FY23) : 1,535 / 1,511 / 1,732 / 2,120
(1Q23 – 1Q24) 479 – 567 (+18.4%)
Revenue – Cash Insurance & Contract
OPD Per visit (Baht) (FY20 / FY21 / FY22 / FY23) : 1,318 / 1,194 / 1,124 / 1,540
(1Q23 – 1Q24) 1,418 – 1,331
IPD Per Admission (Baht) (FY20 / FY21 / FY22 / FY23) : 36,392 / 35,429 / 37,143 / 38,490
(1Q23 – 1Q24) 39,606 – 44,073
***ราคา IPD/OPD ที่เพิ่มขึ้นแปลว่า PHG สามารถเพิ่ม value อื่นๆขึ้นได้ เช่น การที่สามารถรักษาโรคยาก โรคซับซ้อนได้มากขั้น
Revenue – ประกันสังคม (SSO) (Million Baht) (FY20 / FY21 / FY22 / FY23) : 549 / 460 / 563 / 754
(1Q23 – 1Q24) 159 – 197
รายได้อื่นๆ เช่น
รายได้เพิ่มจากกรณีคนไข้ประกันสังคม IPD ที่รักษาโรคยาก โรคซับซ้อน > เบิก 10,000-12,000 บาท / Rw
รายได้ สปสช เคส Cathlab + emergency > บิก ประมาณ 9,500 บาท /Rw
รายได้ ODS หรือ 1 day surgery >9,800 บาท /RW )
รายได้ภาระเสี่ยง 26 โรคเรื้อรัง รวมถึงรายได้นอกเหนือเหมาจ่ายกรณีมีการใช้อุปรณ์การแพทย์พิเศษ
(FY21 / FY22 / FY23):273 / 225 / 242
(1Q23 – 1Q24) 66 / 71
- รายได้ SSO ที่เพิ่มเกิดจากจำนวนผู้ประกันตนที่เพิ่มและการปรับราคาขึ้นเป็น 1,808 บาท/หัว(Y2022)
Normalized Net Profit (Million Baht) (FY20 / FY21 / FY22 / FY23) 103 / 152 / 163 / 256
(1Q23 – 1Q24) 45 – 67
NPM (FY21 / FY22 / FY23) 10.1% – 9.4% – 12.1%
(1Q23 – 1Q24) 8.5% – 11.7%
ศูนย์ HIFU
- เพิ่งเปิดในช่วงปลายปี 2023เป็นการรักษาด้วยคลื่นความถี่สูง ให้บริการรักษาเนื้องอกในมดลูก ผ่านการใช้คลื่นอัลตราซาวด์พลังงานสูงเฉพาะจุดซึ่งจะทำให้เนื้องอกเกิดความร้อนสูง และเซลล์บริเวณนั้นตาย หลังจากนั้นร่างกายจะจัดการกับเซลล์ที่ตาย โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายจากอวัยวะข้างเคียง เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ไม่ต้องการผ่าตัด หรือผู้มีบุตรยากจากการตรวจพบเนื้องอกในมดลูก
- เป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกในประเทศไทยที่นำเครื่อง HIFU มารักษาโรคเนื้องอกทางนรีเวชกรรม เราได้ exclusive มาจากจีนซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีนี้
- ปกติการรักษาเนื้องอกในมดลูกชนิดไม่ร้ายแรงจะมี 3 วิธี คือ 1.ผ่าตัดเปิด 2.ผ่าแผลเล็ก 3 จุด หรือ Laparoscopic 3.HIFU
- ค่าบริการประมาณครั้งละประมาณ 150,000 บาท ราคาเครื่อง 20ล้าน+
- มีลูกค้าที่ Refer มาจาก SAFE คือคนที่อยากมีลูกแต่มีปัญหาด้านนี้
- ในต่างประเทศนิยมใช้เทคโนโลยีนี้เช่น จีน ฮ่องกง
- EBIT Margin 25% ( หักค่าแพทย์แล้ว )
- กำลังทำเรื่องให้พิจารณา ต่อไปอาจจะเบิกประกันสังคมได้
- ตอนนี้มีลูกค้า ประมาณเกือบๆ 10 เคสต่อเดือน ทั้งนี้บริษัทมีการตั้ง Target อยู่ที่ 15 เคสต่อเดือน
ศูนย์ล้างไต เดือนละ 5,000 cycle ( outsource )
เพิ่มสัดส่วนลูกค้าต่างชาติ
ทำ AACi > จะสามารถทำให้รับลูกค้าต่างชาติที่มีประกันได้
- มีการไปออกบูท และทำการตลาด ที่เขมรเพื่อสร้างการรับรู้
- ไปเปิดคลีนิคเล็กๆที่ซอยนานา เพื่อรับคนไข้โดยเฉพาะคนไข้อาหรับเข้ามาที่ PHG
- เดิมสัดส่วนไม่ถึง 5%
IPD Q1/24 drop เล็กน้อยที่แม่และเด็ก
สัดส่วนผู้ประกันตน 27.4% > ปีนี้ไม่รับเพิ่ม
ปีหน้าได้คุยแล้ว จะเพิ่มเป็น 1700,000 คน ระหว่างที่อาคารใหม่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ
Future Plan
- แผนเปิดตึกใหม่ 1 ใน Q2/25 ประกอบไปด้วย แผนกมะเร็ง แผนกฟัน แผนก Storke War / Self-Pay / อาคารจอดรถ ศูนย์ MRI Center,ศูนย์รังสีรักษา และศูนย์ไต
ส่วนเพิ่มจากปัจจุบัน : จำนวนเตียง 270 -> 300 OPD Rooms 74 -> 86 Dialysis 63 Units – > 130 Units จำนวนลูกค้า SSO 156,000 – > 176,000 จำนวนช่องจอดรถ 180 Slots -> 400 Slots
- เป้าหมาย Y2025 Revenue 2,600M NPM 10-12%
- Key Driver Revenue เพิ่มความหลากหลายในการรักษา รวมถึงการเพิ่มความซับซ้อนของโรคในการรักษา / เพิ่มช่องทางการหาคนไข้เพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มคนไข้ segment ใหม่ๆ เช่น คนไข้ต่างชาติโดยเฉพาะในกลุ่มของ CLMV/ เพิ่ม Value ให้คนไข้ด้วย Package & Promotion Program / เพิ่ม Facility / นำระบบ Technology – IT มาใช้ / เพิ่มProductivity
- PHG เก่งในแผนกหัวใจ โดยเป็นศูนย์ส่งต่อจากโรงพยาบาลอื่นๆ และสิทธิต่างๆ
- เก่งแผนก Ortho ซึ่งเป็น แผนกที่ถือว่ามีแพทย์เกือบครบทุก sub-specialty
- เก่งเรื่องแผนกเด็ก เด็กจะเต็มตลอดโดยเฉพาะ Q3 จะมีซาๆช่วงสงกรานต์ ถ้าเต็มมากก็สามารถขยายไปนอนที่ PHG2 ได้
- เงินจาก IPO 1,134ล้านบาท นำไปสร้างตึก Mixed use building และ Patient building งบลงทุน 600-650 ล้านบาท ( ตึก 1 ) ตึก 2 200+ล้านบาท
- ยังมี หนี้อยู่ 90 ล้านบาท จำทยอยชำระคืนให้หมดภายใน 1H/24
- CAPEX ในการสร้างตึกใหม่ Y23 / Y24 / Y25 / Y26 : 100 / 280 / 200 / 200 ( ตึกใหม่ 1 เสร็จ Q2/25 ถ้าไม่ติดอะไรก็จะสร้างตึก 2 ต่อ )
- แผนเริ่มก่อสร้าง Delay จาก Q2/23 เพราะมีการปรับแบบ เพิ่มเตียง
- ค่าเสื่อมตึกใหม่ 2 อาคารรวมกันโดยประมาณ 8 ล้านต่อไตรมาส หรือ ประมาณ 30 กว่าล้านบาทต่อปี ( ค่าเสื่อมอาคารตัด 30 ปี เครื่องมือแพทย์ 8-10 ปี เครื่องฉายแสง 12-15 ปี )
เป้า Revenue from cash จาก 53% > เปิดตึกใหม่อยากได้ 60%
อื่นๆ = ล้างไต กองทุนเงินทดแทน
1Q24 Revenue Breakdown
Cash&Insurrance 53% – SSO 35% – Others 12%
ในเชิงจำนวน Visit
Cash&Insurrance 23% – SSO 60% – Co-pay หรือ สิทธิร่วม 17%
ประกันสังคม visit เยอะ แต่ rev น้อย
Self pay แผนกที่ทำรายได้เยอะ
แผนกเด็ก 27.9% อายุรกรรม 25% กระดูกและข้อ 16.3% สูตินารีเวช 10.3%
สัดส่วนรายได้จาก SSO : Fixed Revenue 28.6% Cathlab 26.2% Adj Rw (รายได้ DRG) 15.7% รายได้จาก 26 โรคยาก 13%
7 ห้องผ่าตัด 4 phg1 / 3 phg2
มี OR case เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา > พยายามรองรับโรคยากขึ้น
ผ่าตัดกระเพาะเป็น service ที่ high billing high margin
จำนวนแพทย์ 490 คน full time 62 คน Part time 428 คน
OPD per bill ลลงจากเดิมเล็กน้อยเนื่องจากส่วนหนึ่งเป็นเพราะยอดขาย Package promotion ช่วง Q1 จะมี drop ไปบ้าง
จะเหวี่ยงเยอะเป็นปกติ Q2 ดีขึ้น
ปกสค ปีที่แล้ว 153,000 คน
Business update
Q&A
Q : ตึกใหม่ที่จะสร้าง มี IRR กี่%
A : Payback Period ประมาณ 6 ปี ( ทั้ง 2 ตึก )
Q ถ้าเพิ่ม cap แล้ว 2025 จะประหยัดค่าส่งต่อเท่าไหร่
A ตอนนี้เสีย 2x ล้าน
พอเปิดศูนย์ MRI จะหายไป > แต่จะมี depreciation เพิ่มเข้ามา 34 ล้าน ( Q ละ 8.5 )
ค่าเสื่อมเครื่อง คิด 10-15 ปี
ค่าสร้างตึก 500 ล้าน
เครื่องมือแพทย์ 200 ล้าน ( เบื้องต้น )
Expense 25 ล้าน
Q ใน MDA ไม่แสดงกลุ่มลูกค้าทั่วไปอื่นๆ
A กระจายเข้าไปในกลุ่มลูกค้าค่าทั่วไปตามสัญญา เช่นกองทุนเงินทดแทน
Q ปี 66 รายได้ต่อคน ลดลง แต่เห็นจำนวนผู้ประกันตนเพิ่มขึ้น
A rev หลักคือ self pay
ต่อให้รายได้ต่อหัวลดลง > รายได้เดิม fix (1,808) แต่ถ้าเคสยากจะได้เงินเพิ่ม
Q Urate ค่อนข้างเต็ม จะเพิ่ม rev ยังไง
A เพิ่มเคสยาก margin สูง self pay ( high billing และ high margin )
Q เอาเคสยากๆมายังไง
A หลักๆจากแพทย์เช่นหาแพทย์ใหม่มาเติม หรือเพิ่ม การ spin case จาก case ปัจจุบัน เพื่อทำหัตถการมากขึ้น
มีระบบ agency ด้วย ( local ) มาจาก web site บ้าง
ส่วนมากเป็น network แพทย์ที่ทำมา
แพทย์จะรู้ว่าส่งที่ไหน
Q ขึ้นตึกใหม่ จะมีพนักงานเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน
A ต้องเพิ่มส่วน front > patient touch point > น่าจะเพิ่มค่าใช้จ่ายพนักงานส่วน front ประมาณ 10%
Capacity ตึกเดิมค่อนข้างแน่น
Q รายได้อื่นๆคืออะไร
A ค่าเช่าที่ด้านหน้า เป็นรายได้อื่นๆ 2-3 ล้าน
มีการไปซื้อตราสารหนี้ mark to market 2-3 ล้าน
เอกชน คู่สัญญา 1-3 ปี ไม่ได้เป็นสัญญายาว
ลด 10% ค่ายา ค่าห้อง ต่อบิล
ค่า RW 64-65 จ่าย 12,000 > ปี 66 ลดบางส่วน 10,000 บาทสำหรับเคสที่เอกสารไม่พร้อม โดนไปประมาณ 1-2 ล้าน
จะกระทบ Q1/24 (ของปลายปี66) เป็นลูกค้าปี 65 มี Key เข้าระบบปี 66
ปี 66 ก็จะมีอีก แต่ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ > อาจจะโดน Q2 หรือ Q3
Q มุมมอง อนาคตเรื่อง adjust RW
A Predict ยากมากขึ้นกับงบประมาณ
Q International patient จากที่ไหนบ้าง
A CLMV Cambodia Myanmar > ต่ำกว่า 5% ของ self pay / target 7%
คิดแพงกว่า margin ดีกว่า แต่ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มด้วย
Q การไปเชิญแพทย์มาทำให้ลูกค้าเพิ่ม
A เริ่มตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
BU ที่อยากเพิ่มคือ HIFU
ผ่ากระเพาะเพิ่มแพทย์เป็น 3 ท่าน
ไม่กังวลเรื่อง demand > ห่วงเรื่องหาหมอ
เพิ่ม รายได้จาก case ยากมากขึ้น
Spin จาก OPD ไป IPD มากขึ้น
Q เปิดตึกใหม่
A ใช้ pricing เดิม
ไปเติม capacity ที่ล้น
OPD +30%
IPD + 4-50%
Break even 2-3 ปี > EBITDA
Doctor fee > 22% ของ total revenue. > stable มาตลอด
สมมติหมอดึงเคสมา จะได้ DF + ค่าคอม
Q แผนการขยายโรงพยาบาลของ รพธนบุรี น่ากลัวมั้ย
A ลูกค้า self pay น่าจะชนกัน > เค้า tier บนกว่าเรา
สินแพทย์ก็จะเปิด > ราคาสูงกว่าเรา
ค่าcharge entry fee เรา 240 สินแพทย์ 300
มี impact แต่ไม่โดยตรง
Contact > self pay + สัญญาที่ทำกับ บริษัทต่างๆ
Q Open heart / cathlab
A QoQ drop / YY โต
แพทย์ ผ่าตัดหัวใจ full time 1 ท่าน
Open heart ผ่าตัดนาน capacity ไม่ได้เต็ม
Cathlab 10 case ต่อวัน ค่อนข้างแน่น
Q Claim rate ประกันสังคม
A มีคนไข้วันละ 1,500-1,600 visit
Average bill 4,800 บาทต่อปี > ( 1,808 + on top )
Q ปีหน้าตึกใหม่จะเสร็จมั้ย
A จะย้ายโรงพยาบาลออกไปบางส่วน เอา OPD ของตึกประกันสังคม บาง BU ออก เพื่อลด traffic
จะเช่าหรือซื้อพื้นที่เพิ่มเติม ( ด้านนอก อยู่ระหว่างหา )
น่าจะ Q1 ปีหน้า / ตึกใหม่ Ward เป็น self pay และ OPD หลักๆรองรับคนไข้ Self-pay เป็นหลัก
Q อะไรเป็นจุดเด่นให้คนใช้ ปกสค เรา
A เราเป็นตติยภูมิ มีหมอครบทุกสาขา / refer น้อย ทำให้ Patient journey ของคนไข้ไม่โดน impact เยอะ
Facility โรง1 ปรับปรุงเรื่อยๆ / เทียบกับที่อื่นเราดีกว่า
รายงาน complain มีแต่น้อย เป็นเรื่องไม่ significant
Q ศูนย์ที่จะเปิดเพิ่มมี progress ยังไง
A HIFU Target 8-10 case > ส่วนใหญ่ทำได้ > ราคาต่อเคสแพง
รักษาเนื้องอกได้
ศูนย์คีโม > ปกสค > เดิมให้ไปทำที่อื่น
ต้องใช้เวลา boost เพิ่ม ยังไม่ hit target สำหรับ visit คนไข้ในส่วน Self-pay
แม่และเด็ก ( คลีนิคผู้มีบุตรยาก ) เริ่มจาก IUI ก่อน มีหมอ 1 คน / ยังไม่ hit target
Q ลูกค้า IVF เค้าไป standalone ดีกว่ามั้ย
A ไม่ได้ target เอกชน > เราเน้น tier กลาง
ของเราเป็น 1 stop service > ขายเป็น package + ฝากครรภ์ ทำคลอด
ราคาเริ่มต้น > ถูกกว่าในเมือง แต่เราต้องจ้าง outsource ทำ lab อาจจะมีเรื่อง margin ที่ต้อง compromise
Q Stroke lab
A อยากได้ 10-15 เคส / เดือน ตอนนี้ยังไม่ hit target
เรามีหมอนิวโรศัล part time
Q โรงพยาบาลราชวิถีเป็นคู่แข่งมั้ย
A เป็นรับ emergency case เป็นหลัก
เค้ายังไม่มีแผนขยายไป treasury care ในช่วง 1-2 ปีนี้
Q หมอ part time เรา ไป full time ที่ไหน
A ธรรมศาสตร์ ภูมิพล มศว / ภัทรธนบุรี หรือโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงพยาบาลแพทย์รังสิต
Q คนไข้แม่และเด็ก เหมือนประกันจ่ายยากขึ้น
A วันนี้คนไข้เรา เป็น cash เยอะกว่าในส่วนของคนไข้แม่และเด็ก ประกันจ่ายยากขึ้น โดยเฉพาะ IPD ต้องให้แพทย์เขียน order รวมถึง ICD ให้ละเอียด
Q รู้สึกว่าจ่ายยากขึ้นเมื่อไหร่
A หลังโควิดซักพักความยาก ยากขึ้นเรื่อยๆ (แล้วแต่บริษัทประกัน ) จ่ายยากขึ้นกรณีที่เป็น simple disease แต่มีการนอนนาน
Gp SSO 8-9%
Gp self pay ตึก1 10-15% > blend รวม SSO หัวใจ ไต / ตึก2 35+% self pay ล้วน + Hifu ผ่าตัดกระเพาะ
Q ความคืบหน้าตึกใหม่
A ตึกใหม่ยังไม่ได้ใบอนุญาตก่อสร้าง กำลังตามอยู่* มีโอกาส delay*
Q แผนการขึ้นราคา
A ปรับล่าสุด ปี 65 / คิดว่า 68 จะปรับ 3-5% > เริ่มมกราสำหรับรายการที่เป็นค่าบริการพยาบาล ค่าบริการโรงพยาบาล
ค่ายาเวชภัณฑ์ปรับตามทุน
Q รายได้จากภาครัฐ ปกสค สปสช อันไหนยากกว่า
A คีย์เบิกไม่ยาก หักไม่เยอะ ที่ยากคือตอนจ่ายเงิน
สปสชไม่ค่อย delay
ปกสช ชอบ delay
การจ่าย เร็วช้า แล้วแต่ revenue type
Fix revenue จ่าย 75% ทุกเดือน ที่เหลือไปจ่ายปลายปี
เราไม่รู้ว่าเค้าจ่ายใคร ก่อนหลัง
การรับรู้รายได้ รับทั้ง 1808 * 150,000 / 12 ทุกเดือน
Opd self pay ปี 66 มี 2,000 visit / day * 30%
แม่และเด็ก 200 โรง2 400
Q1 Q3 Q4 Q2 seasonal > กรณีถ้าเรียงตาม volume การเข้ารับบริการและรายได้ Q3 (Highest), Q4, Q1, Q2 (Lowest)
ปี66 ในช่วง Q4 ได้กำไรภาระเสี่ยง เพิ่มมา 30 ล้าน > จริงๆต้องถอดออก 30 ล้าน
ภาระเสี่ยงจริงๆรับรู้ทุกเดือน แต่ปลายปีเป็นเงินเบิ้ล ซึ่งตาดไม่ได้ ว่าจะได้เท่าไหร่
เนื่องจากประกันสังคมจะเอา data ของโรงพยาบางอื่นๆมาจัดลำดับ ว่าคนไข้ยากมีกี่คน และเอา budget มากระจายให้แต่ละโรงพยาบาล
Q : คู่แข่ง Self Pay เราคือใคร
A : สินแพทย์ เปาโล รวมถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์คลินิคพิเศษ
Q : คู่แข่งไหนที่น่ากลัวสุด
A : วิภาวดี เนื่องจากศักยภาพทางการแพทย์ค่อนข้างครบกว่าโรงพยาบาลเอกชนอื่นๆ